มะลิ วัฒนะยา : อาจารย์มวยไทยสาวชาวแคนาดา ผู้อุทิศตัวให้เด็กๆในชุมชนอำเภอเมืองยาง
อาจไม่มีผู้ใดสงสัยถึงความนิยมมวยไทยในต่างแดน คนประเทศอื่นมากมายก่ายกองหลั่งไหลไปสู่เมืองไทย เพื่อเริ่มฝึกหัดกีฬาจำพวกนี้ หลายๆคนผันตัวเป็นนักต่อยอาชีพ กระทั่งบรรลุเป้าหมาย คว้าทรัพย์สินและก็เกียรติศักดิ์มานับไม่ถ้วน
แม้กระนั้นจะมีสักกี่คน เดินทางทิ้งชีวิตในประเทศอันรุ่งเรือง มาดำเนินชีวิตอยู่ในต่างจังหวัดอันไกลห่าง เพื่อเปิดค่ายฝึกมวย ที่กบดานอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆห่างออกไปจากเมืองจังหวัดนครราชสีมา มากยิ่งกว่า 140 กิโล
ค่ายซ้อมมวยที่นี้ ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใดแบบที่พวกเราเคยชิน จำต้องเดินทางที่จะต้องผ่านถนนลูกรังหลายเส้น รวมทั้ง ตั้งอยู่บนที่ดินของประชาชนรายหนึ่งบนเนินสูงมากขึ้นไป ไม่ใช่พื้นที่อันสะดวก ที่คนใดกันแน่จะเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าจะโอบล้อมด้วยความยากแค้น แต่ว่าค่ายซ้อมมวย ว.วัฒนะ ยังคงยืนหยัด เพื่อฝึกการสอนวิชา พนันกีฬา ts911 มวยไทยให้แก่เด็กในชุมชน แบบไม่ต้องจ่ายเงิน จากหยาดเหงื่อแรงงานของเพศหญิงคนหนึ่ง ที่เลี้ยงเยาวชนไม่ค่อยได้รับโอกาศพวกนั้น เหมือนกับเป็นลูกแท้ๆของคุณ
Main Stand ขอพาคุณไปรู้จักกับ มะลิ วัฒนะยา หญิงสาวชาวแคนาดา ผู้ทุ่มเทชีวิตให้กับมวยไทยมานานกว่า 10 ปี โดยไม่หวังสิ่งใดนอกเหนือจากการสร้างรอยยิ้ม ให้แก่เด็กชนบทที่คุณรักสุดหัวใจ
มะลิ วัฒนะยา เติบโตมาในหมู่บ้านเล็กๆเขตบ้านนอกของเมืองบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ด้วยความรั้นดื้อ ทำให้คุณหลงเสน่ห์กีฬาชกมวยมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุได้ 14 ปี เด็กสาวชาวแคนาเดียน ก็เลยได้โอกาสได้ทราบจะ “มวยไทย” ศิลป์ปกป้องอันมีแหล่งกำเนิดห่างออกไปอีกซีกโลก
“เริ่มต้นมะลิต้องการเรียนมวยสากล พอดิบพอดีมีเพื่อนพ้องอยู่ในสถานศึกษาเดียวกัน กำลังเรียนมวยไทยกับคุณครูต่างประเทศที่เปิดค่ายฝึกมวยอยู่ที่แคนาดา ก่อนหน้านั้นมะลิไม่เคยทราบมวยไทยเลย ไม่เคยรับรู้มาก่อน แต่ว่ามาฝึกทีแรก มะลิถูกใจเลย ชอบใจมากมาย คิดสิ่งเดียวว่า ต้องการชกมวย จะต้องเป็นนักมวยมืออาชีพ”
เมื่อจำต้องมนต์เสน่ห์ของ "ศาสตร์ที่อาวุธทั้งยัง 8" เข้าอย่างจัง มะลิตั้งความมุ่งหมายกับตนเองว่า จะต้องเดินทางมาฝึกฝนวิชามวยไทยที่เมืองไทยให้ได้ คุณสัญจรชกมวยทั่วทวีปอเมริกาเหนือ รวมทั้ง ปฏิบัติงานพาร์ทไทม์ต่างๆอีกทั้ง ชำระล้างในห้องอาหาร และก็ การก่อสร้าง เพื่อคิดบัญชีให้พอเพียงต่อการมาเสี่ยงดวงชะตาที่ผืนแผ่นดินไทย
“บิดามารดามิได้ให้อะไรมะลิเลย พอเพียงจบมัธยม6 มะลิตกลงใจดำเนินงานคิดเงินอีก 1 ปี ช่วงกลางวันปฏิบัติงาน ตกเย็นฝึกมวย เพราะเหตุว่ามะลิตั้งมั่นจ้ะ ว่าจำต้องมาเมืองไทยให้ได้” มะลิกล่าวด้วยน้ำเสียงตั้งใจจริง
เมื่อพบเจอความยากแค้นด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก การเดินทางมาดำรงชีวิตต่างเมืองผู้เดียว ก็เลยไม่ใช่เรื่องตรากตรำอะไรนัก สำหรับมะลิในวัย 19 ปี คุณพร้อมแลกเปลี่ยนความสบายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แม้มันช่วยทำให้คุณได้ดำเนินชีวิตกับสิ่งที่คุณรักถัดไป
“มีคนพามะลิไปฝากไว้กับค่ายฝึกซ้อมมวยในตรอกสุขุมวิท 93 ขณะนี้เขาปิดไปแล้ว แต่ว่าตอนมะลิไป ค่ายฝึกซ้อมมวยเพิ่งจะเปิด ภาวะไม่ค่อยงาม มิได้มาตรฐานมากแค่ไหน แม้กระนั้นพวกเราอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น อีกทั้งโค้ชและก็นักมวยสนิทกันมากมาย”
“ตอนนั้นมะลิหาเงินจากการชกมวย ขึ้นสังเวียนจำนวนมาก จำนวนมากเดินสายต่อยอีกทั้งในกรุงเทพมหานคร และก็ ภาคใต้ เพราะเหตุว่า ภาคใต้ค่าตอบแทนดี หัวหน้าเลยส่งไป ส่วนจ.กรุงเทพฯ ก็ใกล้ ค่าใช้สอยไม่สูง”
“มะลิเคยได้ค่าตอบแทนสูงสุดอยู่ภาคใต้ หนึ่งหมื่นบาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้สองพันถึงสามพันบาท ส่วนกรุงเทพมหานคร บางคราวได้ไม่ถึงสองพัน แต่ว่ามะลิมิได้ย้ำหัวข้อนี้จ้ะ ขอเพียงแค่ได้ต่อยมวยไว้ก่อน”
สิ่งที่มะลิได้จากการเดินทางมากมายรุงเทวดาฯ ไม่ใช่เพียงแต่การได้เดินตามความฝันของตนเพียงแค่นั้น คุณยังได้พบกับ ธนิต วัฒนะยา นักมวยชายหนุ่มคนไทยร่วมค่าย ผู้ซึ่งแปลงเป็นคู่ควง รอร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมกันถัดไปจากนี้
“ผัวมะลิต่อยมวยไม่เก่ง เขาเลยจะต้องดำเนินการก่อสร้างไปด้วย ด้วยเหตุว่าหัวหน้าค่ายเขาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในตัว ช่วงเวลากลางวันเลยปฏิบัติงานก่อสร้าง ตอนเวลาเย็นค่อยมาฝึกมวยต่อ แต่ว่ามะลิมิได้ดำเนินงานนะ อากาศร้อน ทำไม่ไหว
หากแม้ได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม แต่ว่าใช่ว่านักมวยจะดำรงชีวิตได้ตามใจชอบ ทุกคนจำเป็นต้องศึกษาถึงกฎข้อบังคับต่างๆเพื่อปรับปรุงตัวเองทั้งยังในแล้วก็นอกสังเวียน ระหว่างการฝึกฝน มีกฎสั่งห้ามเล่นโทรศัพท์โดยเด็ดขาด เพื่อรวบรวมสมาธิให้เป็นจริงเป็นจังไปกับการบริหารร่างกาย อันเป็นแผนการที่พาให้ทุกคนก้าวสู่ค่ายฝึกมวยที่นี้
บทเรียนที่ ค่ายฝึกซ้อมมวย ว.วัฒนะ อบรมสั่งสอนแก่เยาวชนทุกคน ก็เลยไม่มีเพียงแต่ทีท่าท่าทาง มวยไทย แต่ว่าเรียบร้อยระเบียบสำหรับการดำรงชีวิต เพื่อช่วยทำให้เด็กพวกนี้ สามารถเลี้ยงตนเอง รวมทั้ง ดูแลครอบครัวได้ในอนาคต ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมอันเหนื่อยยากในแถบอีสาน
“คนแถวนี้ทำมาหากินยากมากมาย ทำไร่ทำนาก็ไม่ได้อะไร ได้เพียงแค่ข้าวรับประทาน อย่างปีที่ผ่านมาไม่มีน้ำ นามันแล้ง ข้าวก็ไม่ขึ้น หาเงินมันหายาก” มะลิกล่าวเสียงค่อย เมื่อจำต้องกล่าวถึงภาวะการดำรงชีวิตของคนภายในชุมชน
“เรื่องค่าตอบแทน มะลิไม่หักสักบาท พวกเราให้เขาเต็มๆแม้กระนั้นจำต้องสอนเด็กให้รู้จักคิดเงิน รู้จักใช้เงิน แบ่งให้บิดามารดา มะลิจะต้องมีระเบียบปฏิบัติอย่างนี้ สอนเด็กหัวข้อนี้ เป็นประสบการณ์ชีวิตให้เขาด้วย ค่ายพวกเราจะย้ำนี้มากมาย ไม่ใช่ชกมวยสิ่งเดียว พวกเราสอนอะไรให้เขาหลายประเภท บอกเขาให้คิดเงิน ช่วยทางบ้าน เนื่องจากครอบครัวเด็กโดยมากก็ทุกข์ยากลำบาก”
ตลอดเวลากว่า 4 ปีที่ล่วงเลยไปของค่ายฝึกซ้อมมวย ว.วัฒนะ ไม่เพียงแต่มอบบทเรียน และก็ สร้างชีวิตใหม่ให้เด็กในชุมชนแค่นั้น มะลิรู้ว่า มวยไทย สามารถสร้างชีวิตใหม่ให้กับมนุษย์ทุกคน โดยไม่เกี่ยวว่าจะมีถิ่นกำเนิดมาจากที่แห่งใด หรือ เชื้อชาติอะไรที่อยู่ในบัตรประจำตัวประชาชน
“พวกเราบอกเด็กทุกเมื่อเชื่อวันว่า มวยไทย ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ทุกๆวันนี้ มะลิทำงานทางอินเตอร์เน็ต เขียนข่าวสารมวยไทยลงเว็บ ส่วนผัวสอนชกมวยอยู่เมืองนอก พวกเรามีอาชีพหาเลี้ยงชีพเองได้ด้วยสิ่งที่พวกเรารัก”
“โค้ชที่สอนเด็กอยู่ในค่าย มะลิช่วยทำให้พวกเขาได้ไปสอนมวยอยู่ต่างแดน อีกทั้ง ประเทศออสเตรเลีย หรือ แคนาดา บางบุคคลบอกอังกฤษมิได้ ไม่เคยขึ้นเครื่อง มะลิก็ช่วยเขา พูดว่าไปสอนได้ ใช้ภาษากายก็เพียงพอ เนื่องจากว่าไปดำเนินงานต่างประเทศ ได้เงินดี เดือนสามหมื่นบาท หายากมากมายงานแบบงี้ แล้วไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ตั๋วเรือบิน ค่าบ้านพัก ผู้ที่ว่าจ้างเขาออกให้หมด สบายมากมาย”
“มะลิส่งคนของพวกเราไปที่ตรงนี้ มันช่วยเหลือเจือจุนกันทั้งปวง คนต่างชาติบางบุคคลรู้จักมวยไทย ทำให้ชีวิตเขาดียิ่งขึ้น มีคนหนึ่งที่เป็นผู้ช่วยเหลือค่าย ก่อนหน้าเขาติดสุรา พอเพียงรู้จักมวยไทย เขาก็เลิกกินเหล้า แล้วใจรักมวยไทย เขาเอาเงินมาช่วยเหลือพวกเรา เกื้อหนุนพวกเรา”
“มองเห็นเด็กสู้ มะลิบอกตนเองว่าจำเป็นต้องสู้เช่นเดียวกัน เมื่อใดก็ตามพาเขาไปต่อยมวยตลอด มะลิบอกเด็กทำให้เต็มกำลัง บอกให้ตั้งมั่น มะลิเองก็ตั้งอกตั้งใจสอนเขาเช่นกัน พวกเราเดินไปเรื่อยพร้อมกับเด็ก”
“มะลิกับผัว พวกเราเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเขา ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ มะลิอยู่กับมวยทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่เคยไปไหน ถึงแม้ว่าจะผัวไปยังประเทศต่างๆ มะลิจำต้องอยู่ตรงนี้ เป็นตัวอย่าง ดำรงชีวิตให้เขามอง”
“มะลิคิดเสมอว่าตัวเราโชคดี ที่ได้ดำเนินชีวิตกับเด็กพวกนี้แต่ละวัน มะลิเห็นว่าตนเองเป็นเพียงแค่สะพานแก่เด็กในชุมชน พวกเราสอนมวยไทยให้พวกเขาก้าวผ่านความลำบากในชีวิต มะลิพึงใจมากมายในสิ่งที่ตนเองทำเป็น ไม่เคยรู้สึกว่า มาทำค่ายฝึกมวยอยู่ไกลห่างแบบงี้ มันทุกข์ยากลำบากอะไรเลย”
“มะลิรู้สึกโชคดีจริงๆจ้ะ ที่มะลิทำตามอย่างความฝันตนเองได้อย่างความคาดหวัง” มะลิกล่าวตบท้ายด้วยรอยยิ้ม จบการสัมภาษณ์พร้อมทั้งน้ำตาที่ความสบาย