ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้จัก เอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหน้าที่ นักการเมืองคนใหม่ที่กำลังได้รับการสังเกตอย่างยิ่ง แม้กระนั้นหลายๆคนบางทีอาจไม่ทราบมาก่อนว่า ในอดีตกาลเพศชายคนนี้ เป็น ชาวเอเชียคนแรกที่วิ่งระยะ 560 กม. บนขั้วโลกเหนือเสร็จ
ตอนปีที่ล่วงเลยไป “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นชื่อที่ถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมากในสังคม ไม่ว่าจะเป็น มหาเศรษฐีชายหนุ่มที่ไปถึงเป้าหมายในทางธุรกิจ, นักเคลื่อน-กิจกรรมด้านสังคม, ผู้จัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ ที่นำความเสนอโอกาส รวมทั้งวิถีทางที่ต่างจากพรรคการเมือง
แม้กระนั้นอีกมุมหนึ่ง ที่ไม่ค่อยถูกพรีเซนเทชั่นผ่านสื่อออกมาไม่มากเท่าไรนัก เป็น ประเด็นของนักกีฬาทวีปเอเชียคนแรก ซึ่งสามารถปราบ การประลองกีฬาที่ได้รับการตั้งชื่อว่า “ยากที่สุดในโลก” ได้เสร็จ
ระยะทางการวิ่ง 560 กม. บนเส้นสูงสุดรอบๆขั้วโลกเหนือ ท่ามกลางลักษณะอากาศที่ติดลบ 20-30 องศาเซลเซียส เป็น ปัญหาการประลองกีฬา ที่กาลครั้งหนึ่ง หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยท้าตนเองเสร็จมาแล้ว
ก่อนที่จะปัจจุบันนี้ เขาจะสร้างความท้าใหม่ให้กับตนเอง ด้วยการตั้งพรรคการเมือง เพื่อลงแข่งขันสำหรับในการลงคะแนนทั่วๆไปครั้งนี้
ตลอดการพูดคุย พวกเราได้มองเห็นทั้งยังมุมมอง ความนึกคิด ของ ธนาธร ก็เลยรุ่งโรจน์ อีกทั้ง แนวความคิดแบบผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจ, มุมมองของ คนการบ้านการเมืองรุน่ใหม่ ที่คาดหวังมองเห็นความเคลื่อนไหวของประเทศนี้ รวมทั้งมุมมองของนักกีฬาคนหนึ่ง ที่เขาชี้แจงการบรรลุผลในทางกีฬาของตนว่า มิได้มีส่วนประกอบ มาจากความพร้อมเพรียง เพียงแค่เรื่องจิตใจ สภาพร่างกาย แล้วก็การฝึกหัดที่ดีแค่นั้น?
จริงๆผมเป็นผู้ที่ถูกใจเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก สามารถเล่นได้ทุกชนิด แต่ว่ามิได้มีความพิเศษในกีฬาไหนเป็นพิเศษ ปิงปองผมก็ตี บอลก็เตะ บาสเกตบอล, แบดมินตัน ผมก็เล่น ผมเล่นกีฬาได้นานัปการมากมาย โน่นเป็นตอนตอนเด็ก
กระทั่งมาถึงตอน สัก มัธยม2-3 ผมจับพลัดจับพลู ได้ไปติดกลุ่มบอลสถานที่เรียน ก็หันมาเล่นบอลเป็นหลัก ระยะแรกผมเล่น ตำแหน่งกองหลัง เป็นแบ็กขวา เพราะว่ามีแบ็กคนหนึ่งที่ผมพอใจเป็น สจ๊วตต์ เพียร์ซ ซึ่งว่ากันว่ายอดเยี่ยมในสมัยนั้น ในเวลานั้นเขาเล่นให้ น็อตท้วงติงหมูแฮม ฟอเรสต์ ก็เลยได้ติดตามกลุ่มไปด้วย หลังจากนั้น ผมเปลี่ยนแปลงมาเล่นเป็น กองกลาง แต่ยังเล่นกีฬาอื่นๆด้วย จนถึงจบม. ปลาย
จากนั้น ผมได้เข้าอยู่ในกลุ่มรักบี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อยู่แถวสอง ใส่เบอร์ 5 กระทั่งไปสู่ตอนวัยทำงาน ก็ห่างกับกีฬาไปเลย
ผมจำเป็นต้องเล่าย้อนกลับไปตอนผมอายุ 30 หรือสักราว 10 ปีที่ผ่านมา ผมมีปัญหาสุขภาพ หมอนรองกระดูกเขยื้อน แล้วแพทย์พูดว่า “คุณดำรงชีวิตแบบงี้มิได้แล้วนะ” เนื่องจากตั้งแต่สำเร็จการศึกษามา ผมมิได้เล่นกีฬาเลย ดำรงชีวิตหนักมากมาย จนกระทั่งร่างกายมันฟ้องว่าไปต่อไม่ติดแล้ว ข้างหลังผมพังทลาย หมอนรองกระดูกเขยื้อน ผมปวดมากมาย ถึงขั้นจะต้องคลานไปเข้าส้วม
ผมเริ่มหันมาบริหารร่างกาย จากการขี่จักรยาน เล่นโยคะ ทดลองวิ่ง จนกระทั่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่เคารพนับถือ เชื้อเชิญไปเล่นสามกีฬา ได้ทดลองทำอะไรหลายๆอย่าง จากเดิมที่บริหารร่างกาย เพื่ออยากซ่อมแซมร่างกายตนเอง ให้กล้ามท้อง กล้ามข้างหลังแข็งแรง ไว้รัดหมอนรองกระดูกไม่ให้เขยื้อน แต่ว่าพอเพียงทำไปได้จนถึงกล้ามเข้าที่เข้าทาง ก็ต้องการทราบว่า ข้อจำกัดร่างกายของตนเองอยู่ที่แหน่งใด
ผมขี่จักรยานไกลขึ้น เพิ่มระยะทางวิ่ง จาก วิ่ง 10 กม., 50 กิโล 100 กิโล 250 กม. ไปไต่เขา ทำกิจกรรมแอดเวนพบร์หลายแบบ แต่ว่าก็ยังรู้สึกไม่สุดสักครั้ง วันหนึ่งผมก็เลยพิมพ์คำว่า “The Toughest Race in the World” เพื่อหาการแข่งที่ยากสุดในโลก
กระทั่งมาพบการแข่งขันชิงชัยที่ชื่อว่า 6633 Arctic Ultra ก็กระเด้งขึ้นมา เป็นการวิ่ง 560 กม. รอบๆอาร์คติกที่เป็นการวิ่งจาก จุด A ไปยัง จุด B ตรงเส้น 6633 ที่เป็นเส้นสูงสุดของโลก แบบ Self Survivor ที่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน จะต้องดูแลตนเอง ตลอด 560 กม.
ความฝันที่ต้องการกลับประเทศ ให้คนกลับมาเชื่อถือในระบอบสภานิติบัญญัติ จะต้องใช้เวลานานเป็นสิบปี พวกเราก็เลยมองดูเกมยาว อย่ามีความคิดว่าลงคะแนนเสียงคราวนี้ จะสามารถเปลี่ยนประเทศได้ แม้กระทั่ง พรรคอนาคตใหม่ได้ 200 เสียง หรือ 20 เสียง ก็เปลี่ยนประเทศมิได้ จะต้องเบาๆทำ ทีละลำดับขั้น ครั้งละตอน
หากถามคำถามว่า พวกเราจะไปถึงเป้าหมายยังไงในฐานะพรรคการเมือง บรรลุเป้าหมายของพรรคอนาคตใหม่ บางทีอาจผิดแผกแตกต่างกับกลุ่มกีฬาทั่วๆไป ที่วัดการบรรลุผลด้วยการเป็นแชมป์ หรือพรรคการเมืองอื่นๆที่บางทีอาจบรรลุเป้าหมาย ด้วยการได้คะแนนสูงสุด สามารถก่อตั้งรัฐบาล
แม้กระนั้นสำหรับอนาคตใหม่ การเลือกตั้งไม่ใช่ตัวชี้วัดการบรรลุเป้าหมาย พรรคพวกเราผลิตขึ้นมา เพื่อทำความฝันของสมาชิกให้เป็นจริง นิยามการประสบความสำเร็จของพวกเรา เป็น การที่พวกเราสามารถทำเป็นตามอุดมการณ์ของพรรค ไม่ใช่ชนะการเลือกตั้ง
พวกเราตั้งพรรคขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อลงคะแนน แม้กระนั้นพวกเราตั้งพรรคมาเพื่อเปลี่ยนประเทศ การบรรลุผลของพวกเรา ก็เลยวัดด้วยการที่ว่า พวกเราสามารถทำให้ประเทศดียิ่งขึ้นได้ไหม พวกเราแปลงประเทศได้อย่างที่สมาชิกคาดหมายไหม พรรคการเมืองที่ผลิตขึ้นมาเพื่อหวังเพียงแค่ชนะออกเสียง อย่างนั้นผมไม่ทำ ไม่เคยรู้จะทำ ไปเพราะเหตุไร
ในด้านหนึ่ง การบรรลุผลของนักกีฬาโดยปกติ บางบุคคลก็บางทีอาจมิได้ซึ่งก็คือ การเป็นแชมป์นะ แม้กระนั้นหมายความว่า การที่พวกเขาสามารถเป็นแรงจูงใจให้ผู้ที่เดินตามมาได้ พวกเราก็ต้องการเป็นแบบนั้นในทางการบ้านการเมือง
สิ่งที่ผมต้องการมองเห็นอนาคตใหม่ในกีฬาบ้านพวกเรา ผมต้องการเห็นทีมกีฬาไทย ประเภทอื่นๆไปสร้างชื่อบนเวทีโลก แล้วก็อีกอย่างที่ต้องการมองเห็นไม่แพ้กัน เป็นการได้มองเห็นแวดวงกีฬา สามารถสร้างแรงดลใจ ให้คนหันมาหันมาบริหารร่างกาย หันมาเชื่อถือในความสามารถตนเอง ว่าถ้าเกิดมีความตั้งใจ ส่งเสริมข้อจำกัดตนเอง คุณสามารถทำเป็น