บัสเตอร์ ดักลาส : 'ไทสัน' ยังนับสิบ
"ชัดสุดๆ มันจบแน่นอน ไทสัน ไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้กับผมได้อีก เขานอนหลับปุ๋ยอยู่บนสังเวียนนั่นไง" นี่คือสิ่งที่ เจมส์ บัสเตอร์ ดักลาส กล่าวไว้หลังจากที่เขาคว่ำนักชกเฮฟวี่เวตที่ดีที่สุดแห่งยุคอย่าง ไมค์ ไทสัน ซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่ช็อคโลก
ไม่ท้วงสายตาแม้กระนั้นน่าตื่นตกตะลึง ไทสัน ไม่เคยแพ้คนใดมาก่อน 37ไฟต์รวมทั้งเป็นการชนะน็อค 33ไฟต์ เขาเดินขึ้นเวทีเพื่อซัดกับ ดักลาส ด้วยเช็มขัดแชมป์ 3สถาบันหลัก WBA,WBC,IBF ไม่ต้องถามคำถามว่าคนไหนกันเป็นผู้ที่เหนือกว่ารวมทั้งคนใดกันแน่เป็นหมูในสายตาเซียนมวยแต่ว่าในที่สุดเรื่องมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นเมื่อมวยรองกลับน็อคมวยแชมป์ได้จริงอยู่ที่กีฬานั้นมีแพ้มีชนะแม้กระนั้นความมีชัยไฟต์นี้ของ บัสเตอร์ ดักลาส นั้นไม่ธรรมดามันมีเหตุมีผลที่ว่าเพราะอะไรเขาก็เลยต่อยเก่งขึ้นกว่าเดิมแบบก้าวกระโจน ฟุตเวิร์กเร็วขึ้น,อึดขึ้น,รวดเร็วขึ้น รวมทั้งหมัดหนักขึ้นในไฟต์กับไทสันไฟต์นี้
ว่ากันว่าถ้า ไทสัน ขึ้นเวทีแล้วผู้ชมจำเป็นต้องกลั้นเยี่ยวอุจจาระกันให้ดี เนื่องจากว่าถ้าหากลุกไปเข้าห้องสุขาเมื่อไร ไม่มีผู้ใดค้ำประกันว่าคุณจะได้มองเห็นช็อตหลักๆหรือหมัดน็อคหรือไม่ โน่นเป็นเหตุผลที่ ไทสัน ถือสายรัดเอว 3 สถาบันหลักก่อนไฟต์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วจาก WBA,WBC แล้วก็ IBF หนำซ้ำก่อนต่อยไฟต์นี้ ไทสัน ชนะมารวด 37 ไฟต์ และก็เป็นการน็อคเอาต์ถึง 33 ครั้ง ว่าแต่ว่าคู่ต่อยของเขาล่ะเป็นคนไหนกันมาจากไหน?
เจมส์ "บัสเตอร์" ดักลาส เป็นนักมวยที่แก่กว่า ไทสัน 7 ปี ณ ไฟต์นั้น ดักลาส อายุปิ้ง 30 ปี ส่วน ไทสัน แก่ 23 ปี รวมทั้งกำลังอยู่บนจุดสุดยอดของรุ่น เวลาที่ตัวของผู้ท้าแข่งจะเรียกว่า "ไม่มีแต้มต่อ" ก็พอเพียงจะใช้คำนั้นได้ เนื่องจากว่าเขาต่อยมาจนกระทั่งอายุ 30 ปี แม้กระนั้นก็ยังไม่เคยเป็นแชมป์เลยแม้กระทั้งยุคเดียว ใกล้เคียงที่สุดสำหรับการเป็นแชมป์ของ ดักลาส เป็นในปี 1987 ที่ได้ท้าทายชิงชนะเลิศของ IBF กับ โทนี่ ทัคเกอร์ แม้กระนั้นท้ายที่สุดก็ไปไม่ถึงฝันแพ้น็อคไปในชูที่ 10 เหมือนเดิม
เหตุผลที่เขามิได้เก่งระดับแดนนรกแตกอาจเป็นเนื่องจากว่า เขาเริ่มชกมวยช้ากว่านักมวยระดับแชมป์โลกทั่วๆไปพอควร ตัวของ เจมส์ ดักลาส นั้นมีบิดาเป็นอดีตนักชกมวยระดับมืออาชีพก็จริง แม้กระนั้นตอนวัยรุ่นเขาใช้เวลาไปกับการเล่น บาสเกตบอล แล้วก็เคยเล่นในเกมชิงชนะเลิศประจำเมืองโอไฮโอ กับสถาบัน สถานที่เรียนไฮสคูล ลินเดน แมคคินนีย์ ในปี 1977 อีกด้วย ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นผู้เล่นระดับขึ้น ฮอลล์ ออฟ เฟม ของ คอฟฟีวิลล์ คอมไม่วนิตี คอลเลจ ต่อไปไม่นาน เรียกว่ากว่าจะได้จริงเอาจังเอาดีกับการชกมวยจริงๆเขาก็อายุเกือบจะ 20 ปี แล้ว
แม้ว่าจะเริ่มชกมวยช้าแต่ว่า ดักลาส ก็ปรับปรุงตนเองได้ไวมากมาย วารสาร ริง แม็กกาซีน จัดลำดับให้เขาเป็นนักต่อยเฮฟวี่เวตชั้น 7 ของสมัยนั้น เหตุผลเพราะเหตุว่าภายหลังที่เขาแพ้ให้กับ ทัคเกอร์ สำหรับการท้าทายชิงเมื่อปี 1987 ที่กล่าวไป ดักลาส ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีชนะมา 6 ไฟต์ต่อเนื่องกัน ด้วยเหตุนั้น ดักลาส ก็เลยเป็นคู่ต่อยที่ "สมควร" ในมุมมองของฝั่งไทสัน
เขามิได้อ่อนจนกระทั่งเกินความจำเป็น เขาเป็นนักต่อยชั้นที่ 7 ของโลกในรุ่นนี้ โน่นทำให้ถ้าในตอนปลายแล้ว ไทสัน เป็นข้างชนะ มันก็นับว่าเป็นความมีชัยที่สมเกียรติ ไม่ใช่เรื่องง่ายถางราวกับมวยล้มต้มผู้ชมอะไร เรื่องค่าจ้างนั้นอาจจะไม่ต้องกล่าว หากแม้ไม่มีจำนวนก่อนต่อยเผยแจ่มชัด แต่ว่าความเป็นมวยแม่เหล็กนั้นสามารถกะได้ว่า ไทสัน ฟันเงินมากยิ่งกว่าจมแน่ๆ และก็เผลอบางครั้งอาจจะมากยิ่งกว่าที่ ดักลาส ได้เกินกว่า 4-5 เท่าด้วยไป
ดอน คิง กับ ไทสัน ได้แม้กระนั้นยิ้มกริ่มสำหรับการพบกับ ดักลาส หากแม้ดีกรีจะเพียงพอมีแม้กระนั้นสำหรับ ไทสัน แล้ว ดักลาส นับว่าเป็นคู่ต่อยที่นุ่มๆรวมทั้งพร้อมจะเป็นบันไดให้เขายืดสถิติชนะ 38 ไฟต์รวด และก็บางทีอาจจะเป็นการเพิ่มสถิติน็อคเอาต์คู่ต่อยเป็น 34 ครั้งด้วย
เรื่องความห่างชั้นแล้วก็การมอง ดักลาส เป็นบันไดมีหลายข้อมูลที่ใช้อ้างอิงได้ อย่างต่ำก็จากปากของ ไมค์ ไทสัน เอง
"8 เดือนมกราคม 1990 ผมจะนั่งเครื่องไปลงที่ เมืองโตเกียว เมื่อเครื่องหยุดผมจะถีบประตูดัง ปัง! แล้วก็ร้องดังๆเลยว่า 'ข้ามิได้มาเพื่อต่อยกับผู้ใดกัน แม้กระนั้นเราจะมางานเลี้ยงแล้วก็ขยี้สาวตรงนี้โว้ย'" นี่เป็นสิ่งที่ ไทสัน ให้สัมภาษณ์ข้างหลังทราบดีว่าจำเป็นต้องต่อยกับ ดักลาส แล้วก็มันไม่ใช่ครั้งเดียวที่ ไทสัน พากเพียรจะบอกให้โลกทราบว่าศึกไฟต์นี้เขาปิดประตูแพ้เป็นที่เป็นระเบียบแล้ว
เหตุผลที่ ไทสัน กล้าบอกอะไรอย่างนั้นเพราะว่าข้อเท็จจริงเขาแทบจะมองไม่เห็น ดักลาส ในสายตาเลยด้วย การที่เขามาต่อยที่ เมืองโตเกียว ไฟต์นี้ มีต้นเหตุมาจากการผลักดันและส่งเสริมของ ดอน คิง ซึ่งว่ากันว่าโปรโมเตอร์หัวฟูอุตสาหะจะเรียกเก็บเงินผู้ชมคนละ 60 ดอลลาร์ ตั้งแต่การซ้อมอย่างยิ่งจริงๆ
แม้ว่าจะได้เงินก้อนโต แม้กระนั้น ไทสัน เองไม่เห็นพ้องกับ ดอน คิง เลยด้วย เขามั่นใจว่านักต่อยอย่าง ดักลาส ไม่คู่ควรกับการเสียเหงื่อของแชมป์โลกอย่างเขา แต่ว่าอย่างที่ใครกันแน่ทราบกันดีว่า ดอน คิง แสบแค่ไหน ในคำสัญญาที่ ไทสัน เซ็นไว้กับเขาเมื่อครั้งอดีตกาลเปลี่ยนเป็นบ่วงผูกคอ "ไอออน ไมค์" ที่จำเป็นต้องปฏิบัติตามที่ ดอน คิง สั่งเกือบทุกอย่าง มิเช่นนั้นจึงควรโดนปรับอย่างมากแบบได้ไม่คุ้มเสีย
"ผมไม่อยากจะต่อยกับ ดักลาส มากมายก่ายกองอะไรหรอก หมอนี่ไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไร" ไทสัน ย้ำอีก "ผมไม่ต้องมองเทปการต่อยเก่าๆของเขาหรอก มองสถิติก็เข้าใจดีแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยน็อค ดักลาส ได้ในอดีตกาล ผมว่าผมน็อคพวกนั้นได้ทุกคนนั่นแหละ"
เขามิได้เพียงแค่พูดเล่นๆ เขาทำเป็นมิได้พอใจไฟต์นี้จริงๆเพราะว่าเมื่อโปรแกรมยิ่งใกล้เข้ามา อย่างเดียวที่ ไทสัน ยอมเสียเหงื่อเป็นการร่วมเพศกับเพศหญิงไม่ซ้ำหน้า ว่ากันว่า 6 อาทิตย์ก่อนที่จะมีการต่อย ไทสัน "ใส่ยับ" บนเตียงแบบไม่พักวัน ซึ่งเขาเรียกมันว่านี่ล่ะ "การฝึกฝนของผมสำหรับ ดักลาส"
ยิ่งใกล้วันต่อยโลกก็ยิ่งตื่นตัว บ่อนพนันถูกตามกฎหมายทั่วทั้งโลกเปิดราคามาแบบโหดเหี้ยมสุดๆราคาที่เปิดมาเป็น 42-1 ชี้แจงให้เข้าใจง่ายเป็น ถ้าเกิดคุณกำเงิน 1 ดอลลาร์ ไปลงว่า ดักลาสจะพลิกล็อคช็อคโลกได้ ก็จะได้เงินกลับมาถึง 42 ดอลลาร์ (ไม่รวมทุน) ถ้าหากการเปลี่ยนล็อคนั้นเปลี่ยนเป็นความเป็นจริง
แม้กระนั้น คนแวดวงหรือคนแทงมวยทุกคนทราบว่าบนสังเวียนผ้าใบ อะไรก็เกิดขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมวยรุ่นยักษ์อย่างงี้ หลับหูหลับตาต่อยมั่วนิ่มถึงแม้ว่าจะ ไทสัน ก็เถิด สามารถโดน "หมัดปาควาย" โป้งเดียวหงายท้องเลยก็ได้ รวมทั้งเมื่อธรรมชาติของมวยรุ่นยักษ์มันเป็นแบบนี้ก็เลยทำให้โดยทั่วไปแล้วถ้าราคาเปิดมาแบบน่าเสี่ยงอย่างงี้ "ขารอง" อาจจะหาทางหยอดไว้หวังพลิกล็อกไม่มากมายก็น้อย
แต่ว่าไฟต์นี้ผิดแผกแตกต่างออกไป เนื่องจากทุกคนทราบว่ามันมั่นใจซะมากกว่า เจ้ามือพนันดูเหมือนจะทุกโต๊ะปิดรับแทงคู่นี้หมดเพราะว่ากลัวปลอดคนมาลงเงินด้วย มีเพียงแต่ 1 เจ้าที่เจ้าทางชื่อ The Mirage ที่เป็นคาสิโนใน ลาส เวกัส ที่ยินดีเปิดรับแทงมวยไฟต์นี้ แต่ทว่าทั้งที่เหลือที่เดียวแท้ๆกลับไม่มีผู้ใดกล้าเสี่ยง ว่ากันว่าแม้กระทั้งนักเสี่ยงโชค SA gaming TS911 ที่เมากระทั่งหัวทิ่มแทงบ่อที่สุดใน ลาส เวกัส ก็ยังมีสติสัมปชัญญะพอที่จะหลีกเลี่ยงพนันฝั่ง บัสเตอร์ ดักลาส
อย่าว่าแต่ว่านักเสี่ยงโชคเลย แม้กระทั้งตัวของ ดักลาส เองก็ไม่คิดว่าไฟต์นี้จะได้อะไรมากยิ่งกว่าค่าจ้างก่อนขึ้นสังเวียน แม้กระนั้นอย่างต่ำๆถ้าเกิดเขาได้เหยียบเวทีเขาแน่ใจว่าเขาจะสู้สุดกำลังแน่ๆ
"ผมรู้ๆกันอยู่ ผมมาอยู่ตรงนี้โดยแทบไม่มีช่องทางอะไรให้กับผมเลย แทบจะไม่มีผู้ใดเชื่อน้ำยาผมหรอก แต่ว่าผมไม่สนใจอะไรนักขอเพียงแค่คนของผมมั่นอกมั่นใจในตัวผมก็พอแล้ว ถ้าหากไม่คิดจะสู้ก็ไม่เคยทราบจะเทิร์นโปรมาเพื่ออะไร" ดักลาส กล่าว
การซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่นของ ดักลาส สวนกับ ไทสัน คนละโลก เขาไม่รู้เรื่องว่า ไทสัน ฝึกอะไรบ้าง เพราะว่าข้างจัดนั้นตระเตรียมโรงยิมไว้ยิมเดียวแล้วก็ใช้ด้วยกันอีกทั้ง 2 คน ไทสัน จะได้ฝึกก่อน รวมทั้งต่อด้วยกลุ่มของ ดักลาส จะได้เริ่มฝึกซ้อมเป็นกลุ่มต่อไป
"กลุ่มของพวกเราจะเข้าโรงยิมภายหลังจากกลุ่มของ ไมค์ ใช้งานเสร็จ สิ่งที่พวกเรามองเห็นหลังจากที่ได้มีการใช้ต่อจากเขาเป็น เก้าอี้ทุกตัวคว่ำเกลื่อนกลาดไปหมด อย่างกับใครซักคนทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ไว้" ดักลาส เล่าเรื่องในอดีตก่อนจะขึ้นสังเวียนไฟต์ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว
"ส่วนการซ้อมของพวกเราน่ะหรอ? เงียบสนิทเลย มีแต่ว่าผมและก็เทรนเนอร์เพียงแค่ 2 คน แต่ว่ามันดีแล้วนะ สงบดีเช่นกัน ไม่มีผู้ใดมองพวกเราฝึกซ้อมหรอก และก็โน่นเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจเช่นเดียวกัน"