ลิโอเนล เมสซี่ : ที่มาสุดซึ้งท่าดีใจชี้มือขึ้นฟ้า

03/09/2019 ts911hklen 514 views

ลิโอเนล เมสซี่ : ที่มาสุดซึ้งท่าดีใจชี้มือขึ้นฟ้า

ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูได้ตลอดชีวิตการค้าแข้งแล้ว 671 ประตู (อัพเดทล่าสุด 31 สิงหาคม 2019) มันคือจำนวนที่มากจนเหลือเชื่อ และมันง่ายดายมากที่คนดูจะรู้สึกไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไรมากมายนักกับการส่งบอลไปกองในก้นตาข่ายของเขา เพราะมันเกิดขึ้นบ่อยสุดๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเสียแล้ว

TS911

 

Bleacher Report สื่อกีฬาใหญ่ของโลกได้ทำในสิ่งที่แฟนบอลขี้เกียจทำ นั่นคือการนับการฉลองท่าดีใจและหาความหมายว่าแท้จริงแล้ว ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของโลกลูกหนังนั้นมีท่าดีใจทั้งหมดกี่ท่า และแต่ละท่ามีความหมายอะไรบ้าง

สิ่งที่สื่อเจ้าใหญ่ตรวจมา พวกเขาพบว่ามี 5 ท่าที่ใช้เป็นท่าหลักสำหรับเพื่อการชอบใจของเมสซี่ภายหลังทำประตูได้ รวมทั้งชี้แจงถึงท่าพอใจที่เพียงพอจะหาแหล่งที่มาของมันได้ โดยแบ่งเป็นหลัก 5 ท่าร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นท่า ดูดจุกนม ที่เขาเริ่มทำในปี 2015 ที่ บาร์ซ่า เอาชนะ แอตฯ มาดริด ได้ 2-1 ท่าชอบใจดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมาจากที่ก่อนแข่งขันไม่กี่วัน มาเตโอ ลูกชายผู้ที่ 2 ของเขาได้ลืมตามองโลก

นอกจากนั้นยังมีท่า "Call Me, Maybe?" (ต่อสายโทรศัพท์), ท่า Trident (การสังสรรค์พร้อม 3 คนร่วมกับ หฝ่าส์ ซัวเรซ รวมทั้ง เนย์มาร์) และก็ยังรวมทั้งการไม่ดีดวงใจเลยแม้ว่าจะยิงเข้าเนื่องจากว่าวันนี้ฟอร์มการเล่นของเขาน้อยกว่ามาตรฐาน

แม้กระนั้นมี 1 ท่า ซึ่งพวกเราได้มองเห็นเมสซี่ทำบ่อยเป็นประจำ โน่นเป็นการยกมือขึ้นฟ้าข้างหลังทำคะแนนได้ ซึ่งท่านี้เป็นท่าที่เขาจะทำทุกคราวภายหลังยิงทุกประตู มันเป็นท่าจบท้ายก่อนที่จะคู่ปรปักษ์จะเอาบอลมาเขี่ย รวมทั้งท่านี้นี่เองที่สื่อความหมายลึกซึ้งที่สุดสำหรับเขา เนื่องจากมันเป็นจุดเริ่มของทุกๆอย่าง

ทุกคืนก่อนนอน ลิโอเนล เมสซี่ ในวัยเด็กจะจับมือขึ้นอธิษฐานกับดวงดาว โน่นเป็นสิ่งที่ ฮอร์เก้ บิดาของเขามองเห็นบ่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่ง ฮอร์เก้ ตกลงใจถามคำถามว่า "ลูกขอพรว่าอะไรบ้าง?" เมสซี่ ในวัยเด็กกล่าวว่า "ผมขอพรจากพระผู้เป็นเจ้า ขอให้ท่านมอบความสูงให้กับผม"

"เมสซี๋แฟมิลี่" เป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในบ้านข้างหลังเดียวกัน ณ เมือง โรซาริโอ บ้านข้างหลังเล็กๆข้างหลังนี้เป็นบ้านที่นักเตะหนเยี่ยมที่สุดในโลกดำรงชีวิตอยู่ในตอนวัยเด็ก

ทุกคนในครอบครัวดำเนินงานกันอย่างขยันขันแข็ง โดยมี "คุณย่าเซเลีย" หญิงสูงอายุที่ปฏิบัติภารกิจรออยู่กับบ้านเตรียมพร้อมของกินหรืออะไรต่างๆให้พร้อมสำหรับทุกคนในครอบครัวในการออกไปฝ่างานในวันแล้ววันเล่า

24 เดือนมิถุนายน ปี 1991 เป็นวันเหมือนกำเนิดของผู้ที่อายุต่ำที่สุดในบ้าน "ลีโอ" ซึ่งกำเนิดในปี 1987 เริ่มจะมีอายุครบ 4 ขวบ เด็กคนนี้ไม่ค่อยถูกใจเป็นที่พอใจของคนใดนักหรอก แม้กระนั้นเขาถูกใจวันเกิดเพราะว่าเขาจะได้รับประทานขนมเค้กเพียงแค่นั้น

คุณย่าเซเลีย เดินถือขนมเค้กเข้ามาในห้องนอนของ ลีโอ แล้วก็กล่าวว่า "เอ้า อธิษฐานสิหลาน" เขาหลับตาแล้วก็ต่อจากนั้นคุณย่าก็ให้ของขวัญให้ เมื่อ ลีโอ ลืมตา เขาพบว่าของขวัญครอบรอบ 4 ขวบ เป็นลูกฟุตบอลเบอร์ 5 เท่าขนาดชิงชัยจริง มีลายเป็น 5 เหลี่ยมสีฟ้าซึ่งเป็นสีที่เขาถูกใจที่สุด

ต่างหากที่เป็นบอลลูกแรกของ ลิโอเนล เมสซี่ โดย "คุณย่าเซเลีย" ตั้งอกตั้งใจจะมอบให้เขาเพราะว่า ลีโอ นั้นเป็นน้องเล็กของบ้าน และก็ในตอนที่เขาไปเล่นบอลกับพี่ๆเขาชอบถูกกีดกั้นไม่ให้ลงเล่นเสมอ โน่นก็เลยทำให้ ลีโอ เป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นในตัวเองนัก และก็ใช้เวลาขลุกอยู่แม้กระนั้นในห้อง

TS911

"เอ้า ฝ่าเลยลีโอ" คุณย่าเซเลีย ร้องมาจากหน้าประตู "เอาบอลออกไปเล่นกับเพื่อนฝูงๆได้แล้ว อย่าขลุกอยู่แต่ว่าในห้อง หลานปรารถนาแสงตะวันบ้าง มันจะมีผลให้หลานเติบโตก้าวหน้านะ ออกโชว์ลีลาท่าทางให้พวกพี่ๆเขารู้ดีว่าหลานเก่งแค่ไหน"

เจ้าหนู ลีโอ จูบแก้มของคุณย่าเซเลีย ออกไปเล่นกับเพื่อนฝูงๆพี่ๆอย่างตั้งใจ ลูกฟุตบอลเบอร์ 5 สีฟ้าลูกนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจว่าวันนี้จะมีคนไหนกันให้เล่นด้วยหรือไม่ ด้วยเหตุว่าแม้กระทั่งไม่มีผู้ใดปรารถนาเขา เขาก็ยังสามารถเตะบอลลูกใหม่ผู้เดียวได้ อย่างไรก็ดีมีกฎข้อหนึ่งของเด็กน้อยเป็น "ใครกันแน่มีบอลคนนั้นเป็นราชา" และก็เมื่อ เมสซี่ ได้ลงเล่นกับคนอื่นเพิ่มมากขึ้น มันก็เลยเป็นจุดเริ่มแรกของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่นี้

เมสซี่ เป็นเด็กตัวเล็กที่จะต้องพิสูจน์ตนเองมากยิ่งกว่าผู้ใดกันแน่ เขาไปแข่งไหนก็ชอบมิได้ลงเป็นตัวจริง แล้วก็คุณย่าเซเลีย ก็เข้าใจนี้ดี คุณก็เลยจะต้องรอบอกหลานรักคนนี้อยู่เป็นประจำว่าต้องอย่ากลัวแล้วก็ทำในส่วนของตนให้สุดกำลัง คุณกล่าวว่าให้มอง ดีเอโก้ มาราโดน่า เป็นตัวอย่าง ถึงจะตัวเล็กแม้กระนั้นก็เป็นเลิศนักฟุตบอลระดับแชมป์โลกได้

"ลีโอ ชอบกลัวเวลาจำเป็นต้องเล่นกับเด็กอายุเยอะแยะกว่าและก็ตัวใหญ่มากยิ่งกว่า เขารู้สึกว่าตนเองตัวเล็กไปจนถึงเก่งไม่เพียงพอที่จะเล่นกับ ts911 ทุกคน แม้ว่าความเป็นจริงฉันมองเขาจับบอลก็เข้าใจดีแล้ว" คุณย่าเซเลีย เล่าผ่านหนังสือ The Flea - The Amazing Story of Leo Messi

เมื่อมักถูกมองดูด้วยอคติ คุณย่าเซเลีย ก็เลยพา เมสซี่ ไปเล่นให้กับกลุ่มบอลเด็กที่ห่วยแตกที่สุดในเมืองที่ชื่อว่า กรานโดลี่ ในเวลานั้น เมสซี่ เองก็ยังสงสัยว่าเพราะอะไรเขาจำเป็นต้องไปเล่นให้กลุ่มที่แข่งขันไปก็มีแต่ว่าแพ้ด้วย

"กลุ่มห่วยแตกๆจำเป็นที่จะต้องมีนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใช่ไหมล่ะหลาน? โน่นล่ะ ลีโอ คนนั้นเป็นหลานเอง พวกเขาไม่ทราบว่าหลานเก่งแค่ไหน แล้วประเดี๋ยวพวกเราจะช่วยเหลือกันให้พวกเขามองเห็นเอง"

เมื่อถึงวันแข่งขันของกลุ่ม กรานโดลี่ คุณย่าเซเลีย พา ลีโอ เดินทางไปสนามของ กรานโดลี่ คุณจำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมให้หลานของคุณยอมมาด้วย เพราะเหตุว่า เมสซี่ ยังกลุ้มใจไม่หายรวมทั้งภาพจำของเขาเป็นไปสนามไหนชอบโดนกีดกั้น แต่คุณย่าเซเลีย วางแผนมาอย่างดีเยี่ยมสำหรับหัวข้อนี้ คุณเริ่มสั่งให้ลีโอนับผู้เล่นที่จะลงสู่สนามในเกมนั้น

"กลุ่มนึงมี 11 คนส่วนอีกครั้งมมี 10 คนครับผมคุณย่า" ลีโอ บอกกับ คุณย่าเซเลีย เวลาที่คุณได้แม้กระนั้นยิ้มแล้วก็พูดว่า "โน่นล่ะลีโอ หลานลงไปได้แล้ว หลานทำเป็นแน่ถ้าหากไม่ยอมแพ้"

ช่วงต่อจากนี้เป็นตอนสนทนา คุณย่าเซเลีย เดินเข้าไปหาผู้ฝึกสอนของกลุ่มที่ชื่อว่า อขว้างริสิโอ "ฉันทราบ กลุ่มของคุณตัวไม่ครบ ขาดไปคนนึง ให้ฉันช่วยอะไรไหมล่ะ?" ผู้ฝึกสอนอขว้างริโช่ งงงันที่คุณย่ารู้ดีว่ากลุ่มของเขามีตัวน้อยเกินไป ก่อนที่จะคุณย่าเซเลียจะทำให้เห็นว่า เมสซี่ กำลังวิ่งวอร์มคอยลงสู่สนามอยู่ แต่เมื่อ "ผู้ฝึกสอนอขว้าง" มองเห็นตัวของ เมสซี่ เขารีบดึงแขนคุณย่าเซเลีย ออกมาไกลๆเพื่อจะบอกในอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องการให้หลานของคุณได้ยิน

"ไม่เอาหน่าเซเลีย นี่คุณจะบอกให้ผมเอาลีโอลงเล่นหรอ? มิได้หรอกเขาตัวเล็กจะตายสู้เด็กผู้อื่นไม่ไหวหรอก เขาจะโดนเตะจนกระทั่งร้องไห้นะผมจะบอกให้ท่านยอมรับได้หรออย่างงั้น?" ผู้ฝึกสอนอขว้างเริ่มข่มขู่

"ถ้าเกิดเขาทำให้กลุ่มคนเล่นไม่ดี ฉันนี่แหละจะลากคอเขากลับไปอยู่ที่บ้านเอง ต่อไปนี้คุณจะให้เขาลงได้หรือยัง? เชื่อเถอะ มอบโอกาสให้เขาแล้วก็คุณจะไม่ผิดหวัง" คุณย่าเซเลีย บอกเท่านั้นรวมทั้งสกิลมนุษย์ป้าของคุณก็ทำให้ผู้ฝึกสอนอขว้างใจอ่อน

ตัวของเมสซี่เองยังจำเหตุในวันนั้นเจริญ มันเป็นเกมระดับการแข่งขันชิงชัยตั้งใจจริงหนแรกที่เขาได้สัมผัส และก็เขายังคิดถึงสิ่งที่คุณย่าทำให้เขาจนถึงทุกวันนี้

แชร์เรื่องนี้
Tags : , , , , , , , , , , , ,
แสดงความคิดเห็น