สก็อตตี้ พิพเพ่น เป็นหนึ่งใน “ไนซ์กาย” หรือสุภาพบุรุษสูงที่สุดคนหนึ่งในแวดวงบาสเกตบอล NBA ไม่มีผู้ใดกล้าปฎิเสธหัวข้อนี้ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มหรือคู่ปรปักษ์ของเขา
เขาเป็นสมอลล์ฟอร์เวิร์ดที่เด่นสำหรับเพื่อการเล่นทุกทีท่า เป็นเลิศในกำลังสำคัญที่ทำให้ ชิคาโก้เก๋ บูลส์ ได้แชมป์ NBA มาครอบครองถึง 6 ยุค รวมทั้งนอกสนามเขาเป็นเพื่อนฝูงที่ยอดเยี่ยมของผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมนิรันดรอย่าง ไมเคิล จอร์แดน ที่สำคัญเป็นเขาเป็นผู้ที่ให้ความเอาใจใส่กับครอบครัวมาเป็นชั้น 1 เสมอ (แม้ว่าจะผ่านการสมรสแล้วถึง 2 ครั้งก็ตาม)
บรรยากาศในห้องแต่งตัวของ ชิคาหรูหรา บูลส์ ช่วงปลายสมัย '80s โน่นเปี่ยมไปด้วยพลังแล้วก็ความอยากแชมป์ ภายใต้การนำกองทัพของ ไมเคิล จอร์แดน แล้วก็ผู้ฝึกสอนอย่าง ฟิล แจ็คสัน พวกเขาบากบั่นเป็นอย่างมากที่หากลุ่มที่ยอดเยี่ยม เพื่อเริ่มช่วงที่ความโหฬารให้กับ บูลส์ กลุ่มที่รกร้างว่างเปล่าแชมป์มานานแสนนาน
การพยายามต่อตัวต่อของ บูลส์ ในขณะนั้นไม่เคยบรรลุผลสำเร็จเลยเพราะว่าจะต้องพบกระดูกชิ้นโตอย่าง ดีทรอยต์ พิสตันส์ ในสมัยที่ได้สมญานามว่า "แบดบอย" นำโดย ไอเซย์ โธมัส ไม้เบื่อไม้เมาที่เป็นคู่ปรับของ จอร์แดน เขี่ยไม่เข้ารอบบ่อยๆ
การพยายามของ บูลส์ เริ่มด้วยการคิดจะปั้น ฮอร์เรช เอ็งรนท์ และก็ สก็อตตี้ พิพเพ่น ซึ่งถูกดราฟต์มาในปี 1987 ร่วมกัน โดยพวกเขามุ่งมาดว่าจะถูกดันมาเป็นเลิศผู้เล่นร่วมกับรุ่นพี่อย่าง ชาร์ลส์ โอ๊คลี่ย์ และก็ ไมเคิล จอร์แดน ให้ได้
ขั้นแรกๆของ พิพเพ่น กับบูลส์นั้นมิได้เริ่มด้วยการปะทุฟอร์มในทันที Bleacher Report ชี้แจงถึง พิพเพ่น ในปีที่เป็นรุกกี้ว่า "ตอนรุกกี้ของพิพเพ่นนั้นไม่ค่อยดีเลย เขาขาดทักษะใดเด่นกระจ่างแจ้ง ลักขโมยบอลก็มิได้ รวมทั้งการรีบาวด์ด้วย" ภายหลังโดนเทรดมาจาก ซีแอทเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ในวันดราฟต์ เขาเป็นตัวสำรองเป็นส่วนมาก แต่ว่าภายใต้หน้าที่นั้นเป็นจุดกำเนิดของความโหฬารที่เขาอาจไม่ทราบตัว
ขณะของการเป็นตัวสำรองดาวรุ่ง พิพเพ่น นั้นจำเป็นต้องได้รับบททดลองอย่างมากจากรุ่นพี่อย่าง ชาร์ลส โอ๊คลี่ย์ และก็ ไมเคิล จอร์แดน ที่อีกทั้งผลักดันรวมทั้งตำหนิให้ พิพเพ่น ก้าวผ่านการเป็นดาวรุ่งสู่กำลังหลักของกลุ่มให้ได้ ถึงแม้ตัวของ พิพเพ่น จะท้อใจกับการโดนรุ่นพี่กดหัวในทุกๆเพลย์สำหรับการฝึก แม้กระนั้น "สก็อตตี้" เป็นหนึ่งในชายที่ตรงไปตรงมาที่สุด เขาทราบว่าเพราะเหตุใดรุ่นพี่ก็เลยจำเป็นต้องอัดเขาเหลวเสมอ โน่นเพราะเขายังไม่ดีเพียงพอ
สถิติของพิพเพ่นในปีนั้นเป็นการลงเล่น 79 เกม และก็เขามีเปอร์เซ็นต์ยิงลงเพียงแค่ 46% แค่นั้น ส่วนการยิง 3 แต้มนั้นลงเพียงแค่ 17% รวมทั้งฟรีโทรว์ลงเพียงแค่ 58% นี่เป็นสถิติที่นับว่าเลวทรามมากมายสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งฟอร์เวิร์ด เอาง่ายๆเป็น แม้กระทั่ง จอร์แดน จะเล่นดีแค่ไหน แต่ว่าหาก บูลส์ ยังมีตัวช่วยที่อ่อนหัดอย่าง พิพเพ่น เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะคว้าแหวนวงแรกมาครอบครองได้แน่
พิพเพ่น ก็เลยก้มหน้าก้มตาทำงานมากแล้วก็ทนคำด่าว่าของ จอร์แดน เกือบจะทุกวี่วัน เนื่องจากว่าสิ่งที่คนอย่าง จอร์แดน เกลียดชังที่สุดเป็นผู้ที่ทำอะไรครึ่งกลางปราศจากความมานะ เขาจะรำคาญเมื่อใดก็ตามสหายร่วมกลุ่มไม่เอาจริงเอาจังในระดับเดียวกับเขา
"ถ้าหากผมสามารถทำให้พ่อหนุ่มคนนี้ทำในสิ่งที่ผมบอกให้เขาทำเป็น ท้ายที่สุดกลุ่มของพวกเราจะมีกลุ่ม 5 ผู้ที่อดทน รวมทั้งสามารถเอาชนะกลุ่มที่สุดยอดกลุ่มไหนก็ได้ทั้งหมด" จอร์แดน ในตอนปี 88-89 ที่เก่งเข้าขั้นอสุรกายกล่าว
3 ปีที่ พิพเพ่น จะต้องพากเพียรทุกทางเพื่อเป็นผู้ที่ช่วยจอร์แดนให้ได้ เขาเริ่มปรับปรุงขึ้นครั้งละนิดๆกระทั่งในปี 1990 ที่ พิพเพ่น เปิดตัวด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่เหมือนกับ 2 ปีกลายเป็นคนละคน ในเวลานี้สถิติทำสกอร์, รีบาวด์, สตีล (การแย่งบอล), บล็อก ทั้งหมดทุกอย่างดียิ่งขึ้นหมด ขณะนี้ไม่ใช่แค่เขาแค่นั้นที่รู้สึก เนื่องจากว่าทุกคนรู้สึกเช่นกันหมดว่า "นี่เป็นผู้เล่นที่เคียงข้างจอร์แดนได้อย่างไร้ที่ว่ากล่าว" และก็มันถูกรับรองด้วยการต่อว่าดดรีมทีมของ พิพเพ่น ในปีนั้น
เมื่อ พิพเพ่น รวมทั้งดาวรุ่งอย่าง เอ็งรนท์ แปลงเป็นผู้ที่พึ่งพิงได้ ชิคาโก้เก๋ บูลส์ ก็เริ่มรัชสมัยที่ความใหญ่โตโดยทันที ฤดู 1991 บูลส์ จบฤดูกาลด้วยการเป็นแชมป์จากการเอาชนะ แอลเอ เลเกอร์ส กินขาด 4-1 เกม แน่ๆว่า จอร์แดน เป็น ไฟนอล MVP แม้กระนั้นที่น่ากล่าวสรรเสริญไม่แพ้กันเป็น สก็อตตี้ ที่ทำแต้มเฉลี่ยสูงสุดเป็นชั้น 2 ของรอบชิงแชมป์ ด้อยกว่าเพียงแต่ จอร์แดน เพียงแค่นั้น (เก็บสถิติจากผู้เล่นทั้งยัง 2 กลุ่ม)
เมื่อนั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างง่ายอย่างยิ่ง จากแชมป์ปี 1991 สู่ 1992 แล้วก็ได้แชมป์สามยุครวดในปี 1993 ยิ่งผ่านไปแต่ละปี พิพเพ่น ก็ชั่วร้ายขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ทุกคนทราบว่าเขาได้ปรับปรุงขึ้นมายอดเยี่ยมผู้เล่นเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่แค่ลูกหาบของ จอร์แดน ราวกับในอดีตกาล
เขาเป็นผู้เล่นระดับกลุ่มเพลเยอร์ แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นเกมรุกแม้กระนั้นหากเพื่อกลุ่มแล้วครั้งคราวเขายอมทิ้งกระบวนการทำแต้มและก็มาเล่นคุ้มครองเต็มระบบได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็แล้วแต่ยังมีความข้องใจอยู่ว่าถ้าหาก จอร์แดน มิได้ลงเล่น สก็อตตี้ จะเป็นเยี่ยงไร? และก็ทุกคนก็ไม่ต้องรอนาน เมื่อข้างหลังสังสรรค์แชมป์ปี 1993 จอร์แดน ก็ประกาศรีไทร์อย่างสุดช็อค
ผู้ที่จากก็เดินออกไป ส่วนผู้ที่อยู่ก็จำต้องสู้ถัดไป ภายหลังจาก จอร์แดน ประกาศรีไทร์ทุกสายตาจ้องไปที่ พิพเพ่น ไนซ์กายอย่างเขาจะแปลงเป็นหัวหน้าที่ดีได้สักขนาดไหน จะหามกลุ่มในฐานะสตาร์ได้ดิบได้ดีเสมือนที่ จอร์แดน หามสหายร่วมกลุ่มไหม?
การจากไปของ จอร์แดน ทำให้ บูลส์ อ่อนแอลงอย่างปฎิเสธมิได้ ด้วยเหตุว่าผู้เล่นระดับปรากฎการณ์อย่างงี้ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ด้วยผู้ใดกันผู้ใดผู้หนึ่งทันที แต่ว่าในอีกกรณีหนึ่งมันทำให้ พิพ ถูกสปอตไลท์เปล่งแสง รวมทั้งเขาเริ่มมีความคิดว่าตนเองเป็นสตาร์ชั้น 1 ของกลุ่มอย่างเอาจริงเอาจังเป็นครั้งแรก
ความดังทำให้ สก็อตตี้ พิพเพ่น แปรไป
การเปล่งแสงเต็มลักษณะของ พิพเพ่น ในปี 1994 เริ่มขึ้นแล้ว "ถึงเวลาที่พวกเราจำต้องเดินหน้าถัดไป จริงอยู่มันช็อคทุกคน แม้กระนั้นมันมิได้เปลี่ยนแปลงความเป็นจริงเป็นจังในกลุ่มของพวกเราไป พวกเราทุกคนจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้พร้อม สุดกำลังสำหรับเพื่อการฝึกซ้อมทุกวัน การรีไทร์ของ ไมเคิล เป็นการให้โอกาสให้เราทุกคนชี้ให้เห็นว่าเราเป็นกลุ่มแค่ไหน" พิพเพ่น ในฐานะลีดเดอร์ของกลุ่มกล่าว
ปีนั้น บูลส์ เสริมกองทัพด้วยผู้เล่นคนใหม่หลายรายอีกทั้ง สตีฟ เคอร์, ใบเสร็จรับเงิน เวนนิงตัน, ลุค ทดลองลี่ย์, สเตซี่ย์ คิง แล้วก็ โทนี่ คูวัวช เมื่อทุกคนเข้ามา พิพเพ่น มานะเตือนว่า อย่าลืมว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือกันต่อจากนี้
"กลุ่มชีตพวกเราแปรไปจากที่เคยมี ผู้เล่นที่เข้ามาใหม่บางทีก็อาจจะรู้เรื่องระบบการเล่นของพวกเราคลาดเคลื่อน แม้กระนั้นผมต้องการให้ทุกคนจดจำไว้ว่า เกมรับ เป็นจุดเด่นที่สุดของพวกเรา" พิพเพ่น กล่าว
ทุกคนฟังรวมทั้งปฎิบัติตาม บูลส์ ยังคงเป็นกลุ่มที่ดีแม้ว่าจะขาดจอร์แดน ภายใต้การนำของ พิพเพ่น เขาบางครั้งอาจจะมิได้เล่นแบบโซโล่เพลย์ระดับเต็งคะ MVP แม้กระนั้นทุกเพลย์ของพิพเพ่นนั้นพูดได้ว่ามีคุณภาพแล้วก็ได้ประโยชน์ในทางภาพรวมของกลุ่มเสมอ
"ตัวของผมไม่เคยคิดที่จะมานะเล่นให้ได้รางวัล MVP ไม่มีเลยที่ผมจะมองเห็นประโยชน์ส่วนตนมาก่อนสาธารณะ สิ่งนี้มีอยู่ใน DNA ของผม แน่ๆผมต้องการเป็นผู้เล่นแถวหน้า แม้กระนั้นผมอยากได้เล่นไปตามธรรมชาติ รวมทั้งปลดปล่อยให้กระแสเกมไหลไปสู่จังหวะของผมเพียงแค่นั้น" พิพเพ่น เอ่ยถึงปีที่ความเคลื่อนไหว
ถึงแม้ว่าเขาจะบอกแบบนั้น แม้กระนั้นก็ไม่สามารถที่จะหยุดคำยกยอจากผู้คนรอบตัวได้ ฟิล แจ็คสัน ผู้เป็นผู้ฝึกสอนของ บูลส์ พูดว่าเขาชื่นชอบสำหรับในการก้าวกระโจนของ พิพเพ่น อย่างมากที่ขึ้นมาเป็น “เดอะ หาม” ของกลุ่ม ในช่วงเวลาที่ยอดผู้เล่นอย่าง ชาร์ล บาร์กลี่ย์ ยังอดดู พิพเพ่น ที่เป็นคู่ปรับมิได้ว่า พิพเพ่นเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกในขณะนั้น
"สก็อตตี้ เป็นหัวใจและก็จิตวิญญาณของกลุ่ม เขาหามกลุ่มนี้ไว้บนไหล่และก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่สุดยอด" ใบเสร็จรับเงิน เวนนิงตัน เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มชุดนั้นเอ่ยถึงลูกพี่ใหญ่อย่าง พิพเพ่น
วัวกระทิงชิคาเก๋ ไล่ชนคู่ปรปักษ์ไส้แตกเปรอะ กระทั่งกรุยผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟได้อย่างง่ายๆ รวมทั้งคู่ปรปักษ์ในรอบเพลย์ออฟรอบแรกเป็น คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ซึ่ง พิพเพ่น เปล่งแสงนำกลุ่มชนะรวดเดียว 3-0 จนกระทั่งเข้าไปพบคู่ปรับกลุ่มถัดไปเป็น นิวยอร์ค นิคส์
แล้วก็แมตช์กับ นิคส์ นี่เองที่ทำให้ พิพเพ่น จำต้องทำในสิ่งที่เขาไม่เคยแสดงให้คนไหนกันแน่มองเห็น ข้างหลังตามไปก่อน 0-2 เกม ในเกมที่ 3 ที่เจอกัน ทั้งสองสู้กันได้อย่างใกล้เคียง จนกระทั่งจำเป็นต้องมาวินิจฉัยผู้ชนะกันในช่วงท้ายเกม รวมทั้งโชคดีมากมายที่จังหวะท้ายที่สุดนั้นจะเป็นเพลย์ของ บูลส์ ถ้าพวกเขาจบเพลย์นี้ด้วยแนวทางการทำแต้มได้ บูลส์ จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้
เวลาไม่กี่วินาทีเพื่อชัยอย่างนี้ แม้กระทั้งเด็กนักเรียนชั้นประถมยังมองออกว่า บูลส์ จะใช้ผู้ใดกันเป็นตัวทำคะแนน มันก็จะต้องเป็นผู้เล่นที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดของโลกอย่าง พิพเพ่น แน่ๆอยู่แล้ว ... โน่นเป็นสิ่งที่ ฟิล แจ็คสัน ผู้ฝึกสอนของกลุ่มเองก็ทราบเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว แจ็คสัน ก็เลยเรียกแผนและก็บอกให้ผู้ร่วมทีมของเขาพากเพียรเปิดช่องให้ คูวัวช ผู้เล่นคนใหม่เป็นตัวปิดเพลย์นี้ โน่นเป็นคำบัญชาที่เขาบอกกับผู้ร่วมทีมทุกคน แต่ทว่ามีคนนึงไม่เห็นพ้อง และก็เขาคนนั้นเป็น "สก็อตตี้ เดอะ ไนซ์กาย" ชายผู้บอกเสมอว่าตนเองเป็นกลุ่มเพลเยอร์
พิพเพ่น โกรธมากที่แผนเป็นแบบนั้น เขามั่นใจว่าเพลย์ท้ายที่สุดน่าจะจะต้องเป็นเขาที่เหมาะได้จบเกมนี้ แต่ไม่มีผู้ใดรู้ดีว่าจริงๆในใจเขาคิดยังไง เขาไม่เชื่อใจเพื่อนพ้อง? เขาต้องการดัง? เขาต้องการจะก้าวออกมาจากเงาของจอร์แดน? ผู้ใดกันจะคิดแบบไหนก็ได้ทั้งหมดทั้งปวงในช่วงเวลานั้น
สก็อตตี แปรไปเป็นคนละคนเขาโต้เถียงกับ ฟิล แจ็คสัน ในตอนขอเวลานอก รวมทั้งท้ายที่สุดเขามองเห็นตนเองใหญ่มากยิ่งกว่า ทุกๆอย่างถูกวินิจฉัยข้างในเสี้ยววินาที พิพเพ่น โกรธกระทั่งไม่ขอลงเล่นในเพลย์นั้น ในเวลาที่ ฟิล แจ็คสัน การันตีคำเดิม คูวัวช ควรจะเป็นคนปิดเพลย์นี้กลุ่มที่เขาสั่ง
ระยะเวลาสั้นๆภายหลังผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้เริ่มเล่นกลายเป็นตอนๆในช่วงเวลาที่ทดสอบ พิพเพ่น สูงที่สุด ถ้าเกิด คูวัวช ปิดสกอร์มิได้โน่นคือสิ่งที่ แจ็คสัน คิดนั้นล้มเหลว และก็เขาจะสามารถบอกได้ว่า "ก็เพราะเหตุใดไม่ให้ผมเล่นซะตั้งแต่ต้น" แม้กระนั้นหาก คูวัวช จัดแจงได้พิพเพ่นจะเสื่อมเสียโดยทันที ในที่สุดก็เป็นแบบนั้น คูวัวช ยิงลงและก็กลุ่มชนะ
ทุกคนสังสรรค์กันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดชกับความมีชัยตอนนั้น มีเพียงแต่ พิพเพ่น เพียงแค่นั้นที่นิ่งอึ้งสงวนท่า เขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่?
ข้างหลังจบเกมด้วยความมีชัยของ บูลส์ ใครๆต่างก็เป็นมึนงง เพราะว่า พิพเพ่น ไม่เคยมีท่วงท่าอย่างงี้มาก่อน ความประพฤติของ พิพเพ่น ควรทำให้กลุ่มที่ดีแปลงเป็นกลุ่มที่เสียระบบ เนื่องจากเขารู้สึกว่าตนเองใหญ่มากยิ่งกว่าคนใดกันแน่ แต่ว่าท้ายที่สุด สก็อตตี้ ก็คือ สก็อตตี้ เมื่อความเกรี้ยวกราดหายไปเขามานั่งทวนสิ่งที่เกิดขึ้นรวมทั้งเจอคำตอบว่าเขาควรจะทำอะไรจากนั้น
"สก็อตตี้ รู้สึกผิดหวังรวมทั้งขุ่นเคืองที่เขามิได้เป็นคนถือบอลในจังหวะนั้น" ฟิล แจ็คสัน เปิดหัวราวกับจั่วมาที่ พิพเพ่น ว่าเป็นคนเห็นแก่ได้ แต่ทว่าก่อนที่จะผู้สื่อข่าวจะรู้ข่าวฉาวไปเขียนยำหรือปั้นนำเป็นตัว ฟิล ก็แทรกขึ้นมาว่า "แต่ว่าช่างเถอะ"
"มันจะไม่มีผลเสียต่อกลุ่ม เขากลับมาเล่นเจริญ แล้วก็พวกเราจะชนะในเกมอื่นๆต่อจากนี้ แล้วก็จะไปให้ไกลที่สุดเท่าที่พวกเราทำเป็น" ฟิล แจ็คสัน กล่าวเสริม ภายหลังที่พิพเพ่น กลับมาเล่นในเกมที่ 4 แล้วก็พาทีมชนะนิคส์ ตีเสมอซีรีส์เป็น 2 - 2
เรื่องจริงเป็นก่อนที่จะทุกคนจะเสียความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวของ พิพเพ่น เขาสำนึกผิดทัน ภายหลังจากเข้าห้องล็อคเกอร์ เขาเดินไปขออภัยสหายร่วมกลุ่มเรียงหน้า แล้วก็ขอให้ทุกคนยกโทษกับสิ่งที่เขาทำก่อนทุกคนในกลุ่มจะรับคำขออภัยนั้นรวมทั้งรวมกันเป็นเลิศเพื่อเดินหน้าถัดไป
มันเป็นจริงอย่างที่ ฟิล แจ็คสัน บอก ภายหลังเปิดใจขออภัยทุกคนในกลุ่มแบบตรงๆไม่มีอนัตตา พิพเพ่น ก็กลับมาลงในสนามรวมทั้งช่วยพา บูลส์ แทรกบี้กับ นิคส์ อย่างใกล้เคียง แต่ในที่สุด การขาดจอร์แดนที่เลิกเล่นไปก็ส่งผลอย่างยิ่งจริงๆเมื่อพวกเขาปราชัยไป 3-4 เกม หยุดป้ายเพียงแต่รอบสองในปี 1994
"นี่เป็นปีที่ยิ่งใหญ่" ฟิล แจ็คสัน กล่าวข้างหลังกลุ่มไม่เข้ารอบ "มันเป็นความเจ็บที่พวกเราจะต้องแพ้สำหรับในการชิงชนะเลิศสาย แม้กระนั้นสิ่งที่ผมทราบเป็นเราเติบโตมากยิ่งขึ้นในฐานะกลุ่มบาสเกตบอล พวกเราไม่บางทีอาจปฎิเสธข้อนี้ได้เลย"
มันเป็นปกติที่เมื่อคุณบกพร่อง ผู้คนก็จะซ้ำ เพื่อ บูลส์ แพ้ทุกคนจะเอ่ยถึง จอร์แดน เสมอ แต่ว่าผู้เล่นในกลุ่มชุดปี 1993-94 ต่างกล่าวกันว่านี่เป็นปีที่พวกเขาจำเป็นจะต้องจำตลอดกาล ภายใต้การนำของ สก็อตตี้ พิพเพ่น แม้ว่าจะประสบความล้มเหลวในเรื่องของขวัญ แต่ว่าในด้านของการเป็นกลุ่มแล้ว เขาขึ้นมาเป็นเสาหลักได้ดีเยี่ยมไม่มีที่ติเตียน
TS911 สมัครวันนี้ รับฟรี!!! ทันที 15% สูงสุดที่ 1,500 บาท บาคาร่า สล็อต รูเล็ต ไพ่เสือ-มังกร แทงขั้นต่ำเพียง 10 บาท เท่านั้น!!!