นักเตะคนมีชื่อเสียงกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ และก็ตำนานของบาเยิร์น มิวนิค อาร์เยน ร็อบเบน เขาเป็นผู้เล่นที่มีความเร็วสูง กระปรี้กระเปร่า แม้กระนั้นได้รับสมญานามว่า "เดอะ แมน ออฟ กลาสส์" หรือถ้าเกิดแปลมีอิสรภาพยแบบที่พวกเรารู้เรื่องเป็น "ไอ้กระดูกยุง"
อาร์เยน ร็อบเบน เป็นเด็กที่ต่างจากผู้อื่นตั้งแต่การเริ่มเล่นบอล บิดาของเขาเป็นนักธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับบอล โดยเหตุนั้นเขาก็เลยถูกบิดาส่งไปเรียนสถานศึกษาด้านบอลโดยยิ่งไปกว่านั้นแทนที่จะเป็นสถานศึกษาสามัญ บิดาของเขาทราบดีว่าลูกชายจะเป็นนักเตะได้ แล้วก็ต่อจากนั้นมาบิดาของเขาก็เป็นทั้งยังเอเย่นต์รวมทั้งผู้จัดการส่วนตัวของ ร็อบเบน มาจนถึงทุกวันนี้
ร็อบเบน เป็นเด็กที่มีฝีเท้าจัดวิ่งเร็ว รวมทั้งเหนือสิ่งอื่นใดเป็นเคล็ดลับที่เหนือกว่ารุ่นๆเดียวกัน บิดาของเขาส่งให้ ร็อบเบน เข้าหลักเข้าเกณฑ์สูตรฝึกหัดนักเตะเกมรุกแบบอย่างชาวฮอลล์แลนด์ที่ชื่อว่า "Coerver Method" ที่เป็นหลักสูตรที่เขียนขึ้นจากผู้ฝึกสอนบอลที่ชื่อว่า วีล วัวร์เวอร์ โดยต้นแบบเป็นการเอาสไตล์ของ เปเล่ รวมทั้ง ดิเอโก้เก๋ มาราโดน่า ตำนานลูกหนังของโลกมาพินิจพิจารณาและก็เอาคุณลักษณะเด่นมารวมกัน
เห็นได้ชัดว่า 5 สิ่งจากหลักสูตรนี้เกือบจะเป็นลายเซ็นของนักฟุตบอลตำแหน่งปีกของกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ มานานัปการรุ่น ไม่ว่าจะตัวของ ร็อบเบน เอง รวมทั้งเด็กรุ่นตามหลังมาอย่าง ไรอัน บาเบิล, เมมฟิส เดขว้างย แล้วก็ สตีเว่น เบิร์กไวจน์ ที่เป็นปีกชนิดจบสกอร์เองทั้งปวง
ความต่างของหลักสูตรนี้ เป็น เด็กๆชาวฮอลล์แลนด์จะถูกฝึกหัดตอนอายุ 8-12 ปี แม้กระนั้นตัวของร็อบเบน นั้นพิเศษกว่าคนไหนกันแน่เพื่อนฝูงด้วยเหตุว่าได้บารมีจากบิดาและก็ความสามารถพิเศษประจำตัวก็เลยทำให้เขาได้ฝึกฝนหลักสูตร "Coerver Method" ตั้งแต่อายุแค่เพียง 6 ขวบแค่นั้น
วันหนึ่งในตอนที่เขาเรียนไฮสคูล ตอนที่กำลังเข้าห้องเรียนวิชาสังคมแม่ของเขาโทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์ของสถานที่เรียน เพื่อตามเขากลับไปอยู่ที่บ้าน และก็วันนั้นเองที่ชมรมโกรนิงเก้น เซ็นสัญญาคว้าตัวเขามาร่วมทีม ซึ่ง ณ ตอนนั้น เขาอายุปิ้ง 16 ปีเพียงแค่นั้น
"แม่โทรมาที่สถานศึกษาเพียงพอผมโทรกลับแม่รีบพูดว่า โกรนิงเก้น ต้องการจะได้เอ็งไปอยู่ด้วย ทีแรกๆที่ผมย้ายไป ผมมิได้มุ่งหวังอะไรเลยนะ ผมไม่เคยฝึกซ้อมกับกลุ่มชุดใหญ่เลยด้วย แต่ว่าเพียงพอย้ายมาผู้ฝึกสอนก็จับผมนั่งบนม้านั่งสำรองของกลุ่มชุดใหญ่และก็ถูกส่งลงไปในสนาม จากนั้นเมื่อผมดูรายการทีวี แล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์ ผมก็พบว่ามีแม้กระนั้นข่าวสารของตนเองเยอะไปหมด" ร็อบเบน เล่าถึงการเริ่มเป็นนักเตะ
การลงเล่นกับคนแก่หรือรุ่นพี่นับเป็นเวลาหลายปีไม่ว่าที่แห่งไหนก็เช่นเดียวกันหมด ยิ่ง ร็อบเบน เป็นสไตล์เลี้ยงรับประทานตัวโชว์ใช้ความชำนาญเอาชีวิตรอดด้วยแล้ว เขายิ่งเป็นเป้าให้รุ่นพี่ใช้การเอาจริงเอาจัง สำหรับในการเข้าปะทะเพื่อหยุดเขาทั้งหมด ซึ่งในตอนแรก ร็อบเบน ก็โดนเตะบ้าง เอาชีวิตรอดได้บ้าง แต่ว่าเนื่องจากว่ายังชายหนุ่มยังเเน่นร่างกายของเขา ก็เลยยังมิได้รับผลพวงจากการเข้าปะทะหนัก และก็การใช้ร่างกายเกินอายุมากสักเท่าไรนัก
"ตอนยังเป็นดาวรุ่งผมเริ่มเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายแม้ว่าจะลากเลื้อยหลายครั้งแม้กระนั้น ผมไม่เคยมีปัญหาเจ็บเลยสักหนึ่งครั้งขณะที่ผมยังเป็นเด็กหรือตอนที่เล่นในชุดเยาวชน" ร่างกายวัยชายหนุ่มยังเป็นสิ่งที่ ร็อบเบน นึกออกดีด้วยเหตุว่าเขาไม่เคยรู้สึกเลยด้วยว่า ตนเองจะแปลงเป็นพวกนักฟุตบอลกระดูกยุง
อาร์เยน ร็อบเบน ปรับปรุงฝีเท้าไวมากมายภายหลังได้เล่นกลุ่มชุดใหญ่ให้โกรนิงเก้นไม่นาน เขาก็แปลงเป็นสมาชิกกลุ่มใหญ่ของประเทศอย่าง พีเอสวี แม้ว่าจะเพิ่มระดับแม้กระนั้นดูเหมือนบอลชาวฮอลันดาลีกจะไม่ใช่อะไรที่จากเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของเขา ร็อบเบน กล่าวว่าตอนที่เล่นให้ พีเอสวี นั้นง่ายอย่างยิ่ง งานของเขาเพียงแค่พาบอลเข้าไปในพื้นที่อันตรายรวมทั้งหาทางจ่ายบอลให้กับ มาเตย่า เคซมัน เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มชาวเซอร์เบียทำประตูเพียงเท่านั้น แต่ทว่าที่ถัดไปของเขาต่างหากที่จะเป็นบทพิสูจน์ที่จริงจริง
เชลซี ซื้อตัวเขาไปร่วมกลุ่มในปี 2004 ด้วยค่าจ้าง 12 ล้านปอนด์ ในสมัยที่มี โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีม มูรินโญ่ ต้องการทำให้เชลซีเป็นกลุ่มที่มีสมดุลเกมรุกแล้วก็รับเพอร์เฟ็ค เเละย้ำเกมสวนกลับด้วยผู้เล่นอย่างขอบเส้นที่มีความเร็ว เขาก็เลยตกลงใจซื้อ ร็อบเบน มาร่วมทีมเพื่อเติมเต็มในส่วนนี้
ร็อบเบน มั่นหมายว่าจะสร้างชื่อให้ได้ แต่ว่าเมื่อเริ่มลีกอังกฤษก็ทักเขาเสียเเล้ว ตอน 3 เดือนแรกกับ เชลซี เขามิได้ลงสู่สนามเลย เพราะว่าโดน โอลิวิเย่ร์ ดากูร์ต สอยที่ข้อเท้าในเกมฝึกซ้อม
"ในวัย 20 ปี คุณได้เล่นพรีเมียร์ลีก และก็มีนายจ้างชื่อโชเซ่ มูรินโญ่ ผมคงจะเตรียมตัวให้ดีมากกว่านั้น ด้วยเหตุว่าเขาคาดหมายอะไรจากคุณมากมายๆจากคนอื่นด้วย ฉับพลันพวกเราจะรับทราบไม่เหมือนกันของการเล่นในพรีเมียร์ลีก เพราะเหตุว่าจำต้องอึดขึ้น แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งเร็วขึ้นด้วย” ร็อบเบน กล่าวเสริมถึงเรื่องราวเปิดฉากการบาดเจ็บของเขา
"ผมพลาดเล่นให้ เชลซี ในตอน 3 เดือนแรก ตอนเกมเตรียมพร้อม ดากูร์ต มีเกมที่ไม่ดีนัก เขาโดนผมทำร้ายตลอดทั้งเกม หลังจากนั้นเขาก็ประพฤติตัวเสมือนเด็กๆที่เตะบอลในสถานศึกษา เขาวิ่งตามผมมา แล้วก็เล็งมาที่ข้อเท้าของผมแล้วเขาก็ตั้งมั่นจะหักมัน...เขาเตะผม และก็เขาก็โดนใบเเดง จากนั้นผมก็พบประสบการณ์ใหม่ในชีวิต"
ร็อบเบน พลาดเกมไป 3 เดือนดังที่ว่า แม้กระนั้นเพียงพอเขากลับมาเขาก็จำต้องพบแบบเดิม คู่ปรับตั้งอกตั้งใจจะเตะเขาเพื่อหยุดเกม รวมทั้งเขาเป็นเด็กที่ศีรษะดื้อดึงและก็ซื่อเกินความจำเป็น เขาต้องการจะเอาชนะคู่แข่งขันสำหรับการดวล 1-1 ไม่เคยรู้การใช้อุบายเท่าไรนัก หากแม้หลายหนความคล่องตัวของเขา จะก่อให้กลุ่มสร้างช่องทางเกมรุกได้มากมาย แม้กระนั้นก็มีไม่น้อยที่มันทำให้เขาจำต้องได้รับบาดเจ็บกระทั่งจำต้องพักรักษาตัวอยู่เรื่อยๆ ข้อเท้าบ้าง, หัวเข่าบ้าง บั้นท้ายบ้าง.... จากเด็กเทวดาที่ไม่เคยได้รับบาดเจ็บสักหนึ่งครั้งในเวลาที่เล่นใน ฮอลแลนด์ แต่ว่าช่วงนี้ ร็อบเบน ใช้เวลาจำนวนมากในฐานะนักฟุตบอลที่ไม่พร้อมใช้งานเสียเเล้ว
จริงอยู่ที่การบรรลุผลของเขากับ เชลซี ด้วยการครอบครองแชมป์ลีก 2 ใมยุค แชมป์ลีกคัพ 2 ยุค และก็เเชมป์เอฟเอ คัพ อีก 1 ยุค แต่ว่าในทางตรงกันข้าม มูรินโญ่ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่มีแนวความคิดลึกซึ้ง มองหาข้อบกพร่องในกลุ่มนิดๆหน่อยๆตลอดเพื่อยกฐานะกลุ่มให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก็เขาเห็นว่า ร็อบเบน บางทีก็อาจจะปราดเปรียว แต่ว่าการลงเล่นแบบนัดหมายเว้นนัดหมายอย่างงี้เขาจะไม่ใช่นักฟุตบอลที่สร้างผลดีให้กับกลุ่มในระยะยาวได้
"การทำงานกับ มูรินโญ่ เป็นอะไรที่ยากมากมาย เขาเป็นพวกเกลียดชังนักฟุตบอลที่เจ็บออดๆแอดๆแล้วก็ผมเองก็เป็นนักฟุตบอลจำพวกนั้น ผมเจ็บอยู่เสมอ แทบจะมิได้ลงเล่นแบบสม่ำเสมอเลย ที่อังกฤษเว้นเสียแต่เกมจะหนักแล้วโปรเเกรมยังเเน่นด้วย มันเป็นอะไรที่บ้ามากมายๆเนื่องจากว่าแม้กระทั้งวันคริสต์มาส ครอบครัวของผมยังทำเป็นแค่นั่งดูผมผ่านทีวีเพียงเท่านั้น... ผมหายเจ็บกลับมา ผมได้ลงเล่นในระดับค่อนข้างสูงอีกที แล้วผมก็เจ็บอีกที มันเป็นช่วงๆในเวลาที่โชคร้ายจริงๆ"
มูรินโญ่ เองก็เคยว่าไว้เมื่อปี 2005 ว่าเขาเบื่อกับการบาดเจ็บของร็อบเบน และไม่รู้เรื่องว่านักเตะคนนี้ใจปลาซิวเกินความจำเป็นหรือไม่ บางโอกาสแพทย์ในกลุ่มลงความเห็นว่าเขาสามารถลงเล่นได้ แม้กระนั้นเขากลับขอเลื่อนเพื่อร่างกายฟิตแล้วก็พร้อมจริงๆก่อนแล้วก็ค่อยลงเล่น แน่ๆคนอย่าง มูรินโญ่ ไม่เคยขอคืนดีคนใดกันแน่
"ไม่มีบทสรุปเลยกับการบาดเจ็บของ ร็อบเบน... ผมบอกได้สิ่งเดียวว่าเขาเจ็บหนักพอสมควร เขาเดินลงน้ำหนักไม่ไหว กระดิกไปไหนมิได้ แม้กระทั้งกลุ่มหมอของพวกเราก็ยังไม่รู้เรื่องว่า มันมีต้นเหตุมาจากอะไรกันแน่” มูรินโญ่ กล่าว
