อเมริกันฟุตบอล ที่คุณควรรู้

01/08/2019 ts911hklen 557 views

อเมริกันฟุตบอล เป็นกีฬาที่ดูแล้วเข้าใจยาก จากการที่มีเนื้อหาต่างๆมาก ทั้งเกมยังมีการหยุดเป็นช่วงๆ

อเมริกันฟุตบอล

"Blind Side" ที่เคยเป็นชื่อภาพยนตร์ระดับรางวัลออสการ์เป็นยังไงในกีฬาคนชนคน, "Shotgun" ปืนลูกซองมาเกี่ยวกับกีฬานี้ได้ยังไง และก็เพราะอะไรแฟนกีฬาคนประเทศไทยถึงเรียกธงของผู้ตัดสินในสนามว่า “ธงเจ”? นี่เป็นพจนานุกรมกีฬา อเมริกันฟุตบอล ที่จะช่วยทำให้ท่านรู้เรื่องและก็มองกีฬานี้สนุกสนานเพิ่มขึ้น

เว้นเสียแต่คนประเทศอเมริกาจะเรียกกีฬานี้ว่า “บอล” (ซึ่งประเทศอื่นก็เอาคำว่า อเมริกัน ไปวางด้านหน้าให้รู้ดีว่าข้อตกลงอย่างงี้คนอเมริกันเขาเล่นกัน) แล้ว กีฬาดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังถูกเรียกชื่อในชื่อ “Gridiron” อีกด้วย

ความจริงแม้เปิดพจนานุกรม คำดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะซึ่งก็คือ “ตะแกรงที่ใช้ในการปิ้งและก็ใช้ในการย่าง” แต่ว่าด้วยรูปแบบของมันนี้เองที่ทำให้นำคำนี้ไปใช้กับกีฬาอเมริกันบอลได้ เนื่องด้วยสนามแข่งนั้นจะถูกขีดเส้นแบ่งระยะ คล้ายกับที่กรองที่ใช้ปิ้งนั่นเอง

ตามพจนานุกรม “Scrimmage” มีความหมายว่า “การปะทะต่อสู้หน้าต่อสู้กัน” ซึ่งมันก็สะท้อนถึงเกมอเมริกันบอลด้วยเหมือนกัน เนื่องจากว่ากลุ่มบุกรวมทั้งกลุ่มรับจำเป็นจะต้องมาประจันหน้าต่อสู้กันในแต่ละเพลย์ ฉะนั้น กีฬานี้ก็เลยถูกนิยามในต้นแบบไทยๆว่า “คนชนคน” นั่นเอง

โดยธรรมดาคำนี้จะถูกเอาไปใช้ผสมกับคำอื่นๆเพื่อขยายความให้บริบูรณ์ ตัวอย่างเช่น “Line of Scrimmage” จุดมุ่งหมายถึง “แนววางลูก” ซึ่งแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยตาเปล่า แม้กระนั้นเป็นที่รู้เรื่องตรงกันว่า ห้ามผู้เล่นข้างใดผ่านแนววางลูกไปยังอีกฝั่งถ้าหากยังไม่เริ่มเล่น

Pocket
“Pocket” เป็นพื้นที่ข้างหลังแนวคุ้มครองป้องกันกลุ่มบุก หรือ ออฟเฟนซีฟไลน์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ ควอเตอร์แบ็ค ศูนย์บัญชาการในสนามของกลุ่มทำงานอยู่ นี่เป็นตำแหน่งสำคัญที่ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าจำเป็นที่จะต้องคุ้มครองป้องกันสุดชีวิตเพื่อไม่ให้ผู้เล่นกลุ่มรับผู้ใดกันแน่เข้าถึงตัว

End Zone
สนามกีฬาอเมริกันบอลจะมีระยะการเล่นทั้งนั้น 100 หลา โดยแบ่งเป็นฝั่งละ 50 หลา รวมทั้งมีการระบุตัวเลขแจ่มชัดทุก 10 หลา ซึ่งพื้นที่ภายหลังเส้น 0 หลาหรือ “Goal Line” ของแต่ละฝั่ง นี่แหละเป็น “End Zone” หรือพื้นที่จบเขตการเล่นซึ่งจะมีสีที่สะดุดตากว่าตำแหน่งอื่นๆรวมทั้งนี่เป็นพื้นที่ซึ่งทุกครั้งมอยากได้ไปให้ถึง เพราะว่ามันมีคะแนนสู่ความมีชัยรออยู่

Touchdown
นี่เป็นคำที่แฟนคลับกีฬาคนชนคนอยากได้ยินสูงที่สุด เนื่องจากเมื่อผู้เล่นของฝั่งไหนก็ตามสามารถนำลูกไปถึงเอนด์โซนได้ ก็จะนับว่าได้ “Touchdown” แล้วก็รับ 6 คะแนนให้กับกลุ่ม ซึ่งการทำทัชดาวน์นั้นก็มีหลายแบบ ทั้งยังวิ่งเข้าไป, เหวี่ยงบอลให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ส่วนกลุ่มรับก็สามารถเก็บตกลูกที่บกพร่องของกลุ่มบุกทำแต้มเสียเองได้ รวมทั้งการวิ่งย้อนลูกที่อีกข้างเตะมาให้รับด้วย

โดยภายหลังทำทัชดาวน์ กลุ่มที่ได้แต้มจะมีสิทธิ์เล่นเพื่อรับคะแนนเพิ่มหรือ “Extra Point” ซึ่งจะเลือกระหว่างการเตะเข้าไป ได้ 1 คะแนน หรือนำลูกเข้าไปยังเอนด์โซนอีกทีเพื่อเอา 2 คะแนน ที่เรียกว่า “Two-point Conversion” ก็ได้

Field Goal
เวลาเดียวกัน ก็ยังมีแบบอย่างวิธีการทำคะแนนอีกอย่าง ซึ่งก็คือ “Field Goal” ที่จำเป็นต้องเตะให้เข้าระหว่างเสาประตูที่อยู่ปลายสุดของเอนด์โซน แม้ว่าการทำสกอร์รูปแบบนี้จะมีค่าเพียงแต่ 3 คะแนน แต่ว่าทุกคนก็ทราบดีว่า ทุกคะแนนที่เกิดขึ้นนั้นสำคัญมาก โดยยิ่งไปกว่านั้นในเกมที่ใกล้เคียง การเตะฟิลด์โกลพลาดครั้งเดียวบางทีอาจเปลี่ยนแปลงความมีชัยให้เป็นความพ่ายได้

Safetyคำว่า “Safety” นั้นสื่อความหมาย 2 แบบ แบบแรกเป็นตำแหน่งสำหรับการเล่น TS911 สมัคร เว็บ แทงบอล และ คาสิโน SA gaming ที่จะยืนอยู่ในที่สุดของกลุ่มรับ ส่วนอีกความหมายหนึ่งเป็นอีกลักษณะของแนวทางการทำคะแนน โดยถ้าเกิดผู้เล่นกลุ่มรับสามารถทำให้ผู้เล่นกลุ่มบุกที่ครอบครองบอลล้มหรือออกนอกสนามในพื้นที่เอนด์โซน รวมทั้งทำให้บอลหลุดมือในพื้นที่ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว กลุ่มรับจะได้ 2 คะแนนโดยทันที

Strong Side / Weak Side
คำศัพท์สองคำนี้เกี่ยวโยงกับแนวบุก โดยเฉพาะตำแหน่งตัวรับบอล อีกทั้ง “Wide Receiver” หรือ “ปีกนอก” แล้วก็ “Tight End” หรือ “ปีกใน” (รวมทั้งอาจมี “Running Back” หรือ “ตัววิ่ง” ในบางครั้ง) โดยถ้าฝั่งใดของสนามมีตัวรับบอลมากยิ่งกว่าจะถูกเรียกว่า “Strong Side” ส่วนฝั่งที่มีน้อชูว่าจะเรียกว่า “Weak Side” ซึ่งจะเป็นฝั่งซ้ายหรือขวาของสนามก็ได้ไม่แน่นอน ไม่จำเป็นที่จะต้องขึ้นอยู่กับมือข้างที่ควอเตอร์แบ็คถนัดอะไร

Blind Side
แต่ว่าสำหรับ “Blind Side” คำนี้จะเกี่ยวกับควอเตอร์แบ็คโดยตรง เพราะเหตุว่ามันเป็น “ด้านที่อับสายตาของควอเตอร์แบ็ค” หมายถึง “ฝั่งมือที่ควอเตอร์แบ็คไม่ถนัด” แล้วก็นับว่าเป็นจุดที่ผู้เล่นฝั่งกลุ่มรับหมายจู่โจมใส่ควอเตอร์แบ็คเป็นที่สุด สำหรับคนสามัญบางครั้งก็อาจจะเคยรับรู้คำนี้จากภาพยนตร์ The Blind Side ที่ผลิตจากชีวิตจริงของ ไมเคิล ออร์ ผู้เล่นตำแหน่งที่ป้องกันด้านอับสายตาของควอเตอร์แบ็คดีกรีแชมป์ซูเปอร์โบวล์

อเมริกันฟุตบอล

Down
“Down” เป็นตอนการเล่นจากจุดที่เริ่มการเล่นไปถึงจุดที่บอลตาย โดยแต่ละกลุ่มจะได้สิทธิ์บุก 4 ดาวน์ ถ้าเกิดทำระยะรวมกันได้มากกว่า 10 หลาขึ้นไปก็จะได้สิทธิ์บุกต่อ และก็นับเป็นดาวน์ 1 ใหม่ไปเรื่อยจวบจนกระทั่งจะทำแต้มได้ แม้ไม่สามารถที่จะทำเป็น ก็จำเป็นต้องสลับมาให้อีกฝั่งได้สิทธิ์บุกบ้าง

Drive
“Drive” โน่นซึ่งก็คือจังหวะการเล่นของกลุ่มบุกสำหรับเพื่อการครองบอลช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งถ้าหากสามารถทำแต้ม (โดยเฉพาะ ทัชดาวน์) ได้จากไดรฟ์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น และก็ใช้เวลาสำหรับในการเล่นได้มาก ซึ่งจะก่อให้อีกข้างมีเวลาจำกัดสำหรับการทำสกอร์คืนนั้น ก็ชอบถูกประทับว่าเป็น “ไดร์ฟประสิทธิภาพ” นั่นเอง

Flag
“Flag” หมายคือธงที่ใช้โยนในเกม อเมริกันฟุตบอล ซึ่งจะมีอยู่ 2 สี เป็น สีแดง ที่เฮดผู้ฝึกสอนของแต่ละฝั่งถือไว้เพื่อใช้สิทธิ์สำหรับการ “Challenge” ขอดูภาพช้าเพื่อเปลี่ยนวลีวินิจฉัย กับสีเหลือง ซึ่งผู้ตัดสินอีกทั้ง 7 คนภายในสนามจะมีอยู่กับตัว เมื่อมองเห็นการทำความผิดกฎก็จะปาลงพื้นเพื่อหยุดเกม รวมทั้งด้วยสีนี้เอง ทำให้แฟนกีฬาคนไทยชอบเรียกธงเหลืองนี้ว่า “ธงเจ” ... ก็นะ สีมันเช่นกันไม่ผิดสติไม่ดีเลย

I Formation
“I Formation” เป็นต้นแบบการยืนตำแหน่งของกลุ่มบุกที่พบบ่อยได้บ่อยครั้งที่สุดในกีฬา อเมริกันฟุตบอล โดยควอเตอร์แบ็คจะยืนอยู่ติดข้างหลังของเซนเตอร์ ผู้มีบทบาทจ่ายบอลเริ่มเล่น รวมทั้งจะมีตัววิ่งอีก 2 คนยืนต่อข้างหลังเป็นเส้นตรง ซึ่งถ้าหากดูจากข้างบนก็จะมีความคิดเห็นว่าทุกคนที่กล่าวมายืนราวกับตัวหนังสือ I นั่นเอง

Shotgun
ในเวลาที่ต้นแบบ “Shotgun” นั้นจะไม่เหมือนกับ I Formation อย่างชัดเจนตรงที่ ควอเตอร์แบ็คจะยืนถอยหลังห่างมาจากเซนเตอร์ รวมทั้งมีผู้เล่นตำแหน่งรับบอลกระจัดกระจายอีกทั้งซ้าย-ขวา การยืนห่างออกมาจะก่อให้ควอเตอร์แบ็คสามารถแลเห็นทางวิ่งของตัวรับแต่ละคนได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยมูลเหตุที่เรียกแบบนั้นก็มาจากการยืนแล้วก็การวิ่งของตัวรับบอลที่ราวลูกปรายในลูกกระสุนปืนลูกซอง

สำหรับแฟนการ์ตูน Eyeshield 21 คงคิดออกว่า แผน Shotgun นั้นเป็นแบบการบุกอันขึ้นชื่อลือชาของกลุ่ม เซย์บุ ไวลด์กันแมนส์ ที่เน้นย้ำเกมบุกกสายฟ้าแลบด้วยการโยนเป็นหลักนั่นเอง

Play Action
“Play Action” นับว่าเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นสำคัญในเกมบุก โดยภายหลังบอลถูก “Snap” เริ่มเล่น ควอเตอร์แบ็คจะทำทีว่า “Handoff” หรือยื่นบอลให้ตัววิ่งถือบอลต่อ ก่อนที่จะรีบชักบอลกลับมาอยู่กับตัวเพื่อเล่นเกมปา นี่นับว่าเป็นทริกที่ใช้หลอกกลุ่มรับมาแล้วนักต่อนัก

Blitz
“Blitz” เป็นหนึ่งในแบบอย่างการเล่นเกมรับ โดยที่จะมีผู้เล่น 1 คน หรือมากยิ่งกว่าของกลุ่มรับ ซึ่งจะเป็นผู้ที่อยู่ในแนวปกป้องอย่าง ดีเฟนซีฟไลน์, ดีเฟนซีฟเอนด์ หรือตำแหน่งต่อไปข้างหลังตัวอย่างเช่น ไลน์แบ็คเกอร์, ตัวคุมปีก กับ เซฟตี้ ก็ได้ ที่ทิ้งตำแหน่งของตัวเองเพื่อมาไล่ล่าควอเตอร์แบ็คโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

Sack
นี่เป็นคำที่เป็นฝันร้ายของควอเตอร์แบ็คอย่างแท้จริง เพราะว่าถ้าเกิดผู้นำกองทัพของกลุ่มถูกผู้เล่นกลุ่มรับรวบลงพื้นในเวลาที่ครอบครองบอลเมื่อไร ก็จะถือเป็นการทำ “Sack” ในทันที ซึ่งนอกเหนือจากการที่จะทำให้เสียระยะ จนถึงทำให้เพลย์ถัดไปจะต้องบุกให้ได้ระยะมากยิ่งกว่าเดิมแล้ว ถ้าเกิดการแซคเกิดขึ้นในเอนด์โซน กลุ่มรับจะได้ 2 คะแนนในทันทีตามที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้

แชร์เรื่องนี้
Tags : , , , , , , , , , ,
แสดงความคิดเห็น