เคร็ก จอห์นสตัน : ผู้กำเนิดสตั๊ด “พรีเดเตอร์”

31/10/2019 ts911hklen 338 views

เคร็ก จอห์นสตัน กำเนิดที่เมือง โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ในครอบครัวคนออสเตรเลีย จอห์นสตันเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างจะดี บิดามารดาพอเพียงจะมีเงินอุปถัมภ์ค้ำชูเขาให้อยู่สบาย ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต แต่ว่าภายหลังจากลืมตามองโลกได้เพียงแต่หกปี ชีวิตของเด็กผู้ชายจอห์นสตันก็เกือบจะที่จะจำเป็นต้องแปรไปนิรันดร

เคร็ก จอห์นสตัน

เขามีอาการป่วยด้วยโรคโปลิโอ จำพวก Osteomyelitis ที่หมอวิเคราะห์ว่า จำเป็นจะต้องตัดขาข้างหนึ่งทิ้งเพื่อรักษาชีวิต ซึ่งแม่ของเขานั้นเซ็นเอกสารยอมไปเป็นระเบียบแล้วด้วย แต่ว่าโชคยังเข้าข้างเด็กผู้ชายจอห์นสตัน เช่นเดียวกันกับชะตาลิขิตไว้ว่าชีวิตเขาควรจะเป็นตำนาน จะมาหยุดเพียงนี้มิได้ จากที่แทบห่อเหี่ยวไปแล้ว ปรากฏว่าครอบครัวของจอห์นสตันสามารถหาหมอผู้ที่มีความชำนาญโรคนี้จากอเมริกาได้ทันตามกำหนด ทำให้ท้ายที่สุดจอห์นสตันรอดพ้นจากการเสียขา แล้วก็สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ธรรมดาดังเดิม

ระยะเวลาไม่ดีล่วงเลยไป ความแจ่มใสก็เริ่มมาเยี่ยม เด็กผู้ชายจอห์นสตันเติบโตขึ้นเรื่อยกับความหลงรักในกีฬาบอลที่เขาได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นบิดาซึ่งเคยเป็นนักเตะสมัครเล่น จอห์นสตันแล้วก็ครอบครัวได้ย้ายกลับมาดำรงชีวิตที่ออสเตรเลีย ก่อนจะเริ่มฝึกหัดวิชาลูกหนังอย่างเป็นจริงเป็นจังทีแรกกับ Lake Macquarie City FC สมาพันธ์เล็กๆในเมืองนิวเซาธ์เวลส์

งตกลงใจทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่แม้กระนั้นใครๆอาจมองดูเกิดเรื่องเพ้อเจ้อ เขาเขียนจดหมายหาสมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ในอังกฤษหลายชมรมเพื่อขอทดลองฝีเท้า อีกทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, รวมทั้ง มิดเดิ้ลสโบรช์ … ท้ายที่สุดมีเพียงแค่ เดอะ โบโร่ ชมรมเดียวแค่นั้นที่ตอบจดหมายเขากลับ

ครอบครัวของจอห์นสตันตกลงใจขายบ้านเพื่อนำเงินมาเป็นทุนส่งลูกชายไปตามล่ากล่าวโทษฝันที่อังกฤษ รวมทั้งจอห์นสตันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจนได้รับมอบข้อตกลงให้เป็นนักฟุตบอลฝึกฝนของมิดเดิ้ลสโบรช์

ภายหลังเป็นนักฟุตบอลฝึกได้เพียงแต่สองปี ด้วยฟอร์มการเล่นอันสะดุดตา จอห์นสตันก็โดนดันขึ้นมาเล่นให้กับกลุ่มชุดใหญ่ในวัยเพียงแค่สิบเจ็ดปีเพียงแค่นั้น แล้วก็แม้จำเป็นที่จะต้องพบกับการประลองที่ชั่วร้ายขึ้น คู่แข่งขันที่เก่งขึ้น ก็ไม่สามารถที่จะหยุดความร้อนแรงของเด็กวัยหนุ่มคนนี้ได้ โดยตลอด 4 ฤดู (1977-1981) จอห์นสตันลงเล่นในลีคไปทั้งผอง 64 นัดหมาย แล้วก็ยิงได้กว่า 16 ประตู กระทั่งท้ายที่สุดฝีเท้าของจอห์นสตันก็ไปสะดุดตายอดกลุ่มที่เกาะอังกฤษในช่วงเวลานั้น หงส์แดง

กลุ่มลิเวอร์พูลตกลงใจคว้า เคร็ก จอห์นสตัน ไปร่วมกองทัพด้วยค่าจ้าง 650,000 ปอนด์ และก็พ่อหนุ่มขาเกือบจะขาดคนนี้ก็ไม่ทำให้ชมรมใหม่จำเป็นต้องผิดหวัง เขาปรับพฤติกรรมได้อย่างเร็วจนถึงเปลี่ยนเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญให้หงส์แดงเถลิงความโหฬารในสมัย 80

จอห์นสตันค้าลำแข้งกับหงส์แดงร่วมกัน 8 ปี ลงในสนามในลีกไปทั้งหมดทั้งปวง 271 นัดหมาย ยิงได้ 40 ประตู คว้าชัยชนะดิวิชั่น 1 (พรีเมียร์ลีก ในตอนนี้) 5 ยุค เอฟเอคัพ 2 ยุค ลีกคัพ 2 ยุค และก็ยูโรเปี้ยนคัพ (แชมเปี้ยนส์ลีกในตอนนี้) 1 ยุค โดยรวมจัดว่าบรรลุความสำเร็จพอเหมาะพอควร หากแม้เขาจะไม่เคยติดกลุ่มชาติอังกฤษชุดใหญ่เลยสักหนึ่งครั้ง (จอห์นสตันมีสิทธิ์เล่นให้กับกลุ่มชาติแอฟริกาใต้แล้วก็ประเทศออสเตรเลีย แต่ว่าเขาตั้งอกตั้งใจที่จะเล่นให้กับกลุ่มชาติอังกฤษเพียงแค่นั้น)

อย่างไรก็ดีชีวิตนักเตะที่กำลังเดินทางไปได้งามของจอห์นสตันกลับจะต้องจบเร็วกว่าที่คิด เขาตกลงใจห้อยสตั๊ดในวัยเพียงแต่ 28 ปีแค่นั้น เพราะว่าต้นเหตุทางครอบครัว เขาจึงควรกลับไปดูแลพี่สาวที่เจ็บป่วย

เรื่องราวการเป็นนักเตะของจอห์นสตันจบลงเพียงเท่านี้ อย่างที่พวกเราบอกไป เขาไม่ใช่นักเตะที่ล้มเหลว แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็พูดไม่ได้เต็มปากว่าเขาเป็นนักเตะที่ประสบผลสำเร็จ

จริงอยู่ที่ในสมัย 80’s จอห์นสตันบางครั้งอาจจะเพียงพอเป็นที่รู้จักอยู่บ้าง แต่ว่าถ้าหากทดลองถามเด็กยุคนี้มองว่ารู้จัก เคร็ก จอห์นสตัน หรือไม่ มั่นใจว่าคงจะมีน้อยคนอย่างยิ่งที่จะรู้จัก นอกเหนือจากการที่จะเป็นคอบอลพันธุ์แท้จริงๆสลับกันถ้าเกิดถามคำถามว่ารู้จักรองเท้าสตั๊ด adidas Predator หรือไม่ มั่นใจว่าดูเหมือนจะทุกคนจำต้องตอบเป็นเสียงเดียวกัน

เคร็ก จอห์นสตัน รองเท้าสตั๊ดที่ราวกับไม้ปิงปอง

เคร็ก จอห์นสตัน

มั่นใจว่าอาจมีน้อยผู้ที่จะรู้ดีว่า adidas แบรนด์วัสดุอุปกรณ์กีฬามหาอำนาจของโลกในขณะนี้กาลครั้งหนึ่งในตอนต้นสมัย 90’s พวกเขาเคยเกือบจะล้มละลายมาแล้ว แต่ว่าโชคดีที่มีอัศวินขี่ม้าขาวสองคนมาช่วยได้ทันตามกำหนด คนแรกเป็น มาดอนน่า ราชินีเพลงป๊อปผู้เลื่องลือ คุณเคยถ่ายรูปโดยใส่กระโปรงสีแดงของ adidas แล้วก็มันก็แปลงเป็นรูปถ่ายที่เป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งโลก กระทั่งทำให้ยอดจำหน่ายของ adidas พุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนผู้ที่สองเป็น เคร็ก จอห์นสตัน อดีตกาลนักเตะมิดฟิลด์กลุ่มหงส์แดงผู้เลื่องลือ

“ผมคิดมาตลอด ตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่งที่โบโร่ ว่าอยากได้รองเท้าสตั๊ดซึ่งสามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ดียิ่งไปกว่านี้” จอห์นสตันเปิดเผยให้ฟังถึงจุดเริ่มแรกของแรงผลักดันว่า ในสมัยที่เขายังค้าลำแข้งนั้นไม่มีรองเท้าสตั๊ดซึ่งสามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ราวกับหัวใจคิด แม้กระนั้นความนึกคิดนั้นก็เข้ามาแล้วผ่านไป จอห์นสตันมิได้ทำอะไรขมักเขม้นนอกเหนือจากก้มหน้าก้มตาเตะบอลตามหน้าที่ของตนเอง

เวลาผ่านพ้นไปนับสิบปี ภายหลังที่จอห์นสตันห้อยสตั๊ด เขาจัดแจงหน้าที่รับผิดชอบเรื่องครอบครัวเป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วต่อจากนั้นเขาก็ย้ายมาอาศัยที่เมือง ซิดนีย์ ออสเตรเลีย เขาใช้วิชาลูกหนังของตนเองให้มีประโยชน์ด้วยการทำงานเป็นผู้ฝึกสอนบอลให้กับเด็กๆที่ศูนย์ฝึกซ้อม Avalon

“ควรมีความรู้สึกว่าเท้าแล้วก็รองเท้าสตั๊ดของตนเองเป็นไม้ปิงปอง” นี่เป็นสิ่งที่จอห์นสตันพร่ำบ่นศิษย์ของเขาอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุว่ามันจะช่วยทำให้ควบคุมลูกฟุตบอลเจริญขึ้น จนถึงวันหนึ่งศิษย์คนหนึ่งของเขาก็โต้เถียงกลับมาว่า

“แต่ว่ารองเท้าของเรามิได้ทำจากยางนะ มันทำจากหนัง” ผู้ใดกันแน่จะคาดการณ์กล่าวถึงคำบอกเล่าไม่รู้เดียงสาของเด็กน้อยคนหนึ่งจะก่อให้จอห์นสตันกำเนิดแรงดลใจที่ยิ่งใหญ่

ต่อไป วันหนึ่งที่ฝนตกหนัก จอห์นสตันก็เลยไม่ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจผู้ฝึกสอนบอล เขาใช้เวลาตลอดทั้งวันสำหรับเพื่อการปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงรองเท้าสตั๊ดของตน โดยการถอดแถบยางของไม้ปิงปองมาพันรอบรองเท้า

“ผมรีบเอารองเท้าที่ดัดแปลงแก้ไขไปทดลองเตะบอลกึ่งกลางฝน ถึงมันจะแผดเสียงร้องราวกับหมูด้วยเหตุว่าแถบยาง แต่ว่ามันก็ช่วยทำให้ควบคุมลูกฟุตบอลก้าวหน้ามากยิ่งกว่าเดิม มันเป็นช่วงดีเลิศ”

เมื่อมีวี่แววจะไปได้ดี จอห์นสตันก็ไม่รอคอยช้า กลับไปอยู่บ้านมาปรับปรุงรองเท้าเพิ่ม เขาเล่าให้ฟังว่าเขาลองถูกลองผิดไปเรื่อยมากยิ่งกว่าหนึ่งพันแบบอย่าง จนกว่าได้คู่ต้นแบบที่ดีเยี่ยมที่สุด เขาก็ตกลงใจนำมันไปเสนอให้กับเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ ทั้งยัง adidas, PUMA, Nike, Reebok รวมทั้ง Umbro

“ผมเอาไปที่ adidas แต่ว่าพวกเขาพูดว่ามันไม่มีวันที่จะเวิร์ก แล้วผมก็เอามันไปเสนอกับ PUMA, Nike, Reebok รวมทั้ง Umbro พวกเขาก็ตอบกลับมาสั้นๆว่าไม่”

จอห์นสตันเริ่มด้วยความไม่ประสบผลสำเร็จ แม้กระนั้นคิดหรอว่าชายที่กาลครั้งหนึ่งแทบจะต้องเสียขาไปและก็ออกมาเสี่ยงภัยที่อังกฤษคนเดียวตั้งแต่อายุ 14 จะยอมแพ้ยอมยกธงขาว เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าต่อจากนั้นจอห์นสตันก็คิดอะไรบางอย่างได้แล้วก็ตกลงใจบินลัดฟ้าสู่เยอรมัน

จอห์นสตันตกลงใจทำสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดหวัง เขาตกลงใจเดินทางมาเจอกับเพศชายคนหนึ่ง “ฟรานซ์ เบ็คเคนค่อยเอ้อร์” ใช่ ทั้งสองไม่เคยทราบจะกันมาก่อน แม้กระนั้นจอห์นสตันรู้สึกว่าตำนานลูกหนังเยอรมันคนนี้จะช่วยเขาได้

“ผมไปที่ประเทศเยอรมัน ชมรม บาเยิร์น มิวนิค ผมบอกทางสมาคมไปว่า ‘ผมอยากเจอ ฟรานซ์ เบ็คเคนค่อยเอ้อร์’ พวกเขาถามกลับมาว่า ‘คุณเป็นคนไหนกันแน่?’ ผมตอบไปว่า ‘ผมชื่อ เคร็ก จอห์นสตันสมัยก่อนนักฟุตบอลหงส์แดงคนออสเตรเลีย’” มันเป็นการทำที่บ้าๆบอๆ แต่ว่าคนไหนกันแน่จะมั่นใจว่าในอีกไม่กี่วันถัดมาจอห์นสตันจะได้เจอกับยอดเยี่ยมตำนานคนนี้จริงๆ

เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันในตอนเดือนธันวาคม ปี 1990 หิมะกำลังโปรยลงมาอย่างมาก โน่นเป็นตอนที่จอห์นสตันได้เจอกับ ฟรานซ์ “ไกเซอร์” เบ็คเคนค่อยเอ้อร์

“นายเป็นเลข 8 ของหงส์แดงนี่” เบ็คเคนค่อยเอ้อร์ทัก โชคดีที่เขาจำจอห์นสตันได้จากขณะที่เขายังค้าหน้าแข้งอยู่ จากนั้นทั้งสองก็เอ่ยถึงเนื้อหาของไอเดียรองเท้าที่จอห์นสตันเอามาเสนอ ก่อนที่จะบทพูดในวันนั้นจะจบลงว่า

พรุ่งนี้จอห์นสตันมาหาเบ็คเคินค่อยเอ้อร์อีกทีพร้อมรองเท้าสี่คู่ตามคำสั่ง แต่ว่าปรากฏว่าครั้งนี้ไกเซอร์ที่เยอรมันมิได้อยู่ตามลำพังคนเดียว คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้, พอล ไบรท์เนอร์, และก็ ฮันซี่ มุลเลอร์ ก็อยู่ตรงนั้นด้วย อีกทั้งสี่ยืนยันเท้าจากจอห์นสตัน ก่อนที่จะสวมมันแล้วก็ลงไปเตะบอลท่ามกลางหิมะ

“ใช่เลย ใช่เลย ใช่เลย” เหล่าตำนานต่างตะคอกออกมาเมื่อรับทราบถึงคุณภาพของรองเท้าของจอห์นสตัน

จอห์นสตันไม่คอยช้า เขาอัดคลิปวิดิโอเหตุดังกล่าวมาแล้วข้างต้น หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของ adidas อีกรอบ

ทางเข้า TS911 ล่าสุด อัพเดทตลอด 24 ชั่วโมง 2019-2020

แชร์เรื่องนี้
Tags : , , , , , , , , ,
แสดงความคิดเห็น