ความมืดที่ใต้ดิน : แฟรงคลิน โลบอส…อดีตแข้งทีมชาติชิลีและเพื่อนคนงานผู้ติดเหมือง 69 วัน

สำหรับคนทั่วทั้งโลกบางครั้ง แฟรงคลิน โลบอส บางทีอาจมิได้เป็นนักเตะที่ไม่มีความโด่งดังอะไร แต่ว่าถ้าเป็นบ้านกำเนิดที่โปเปียโป, ประเทศชิลี เขา เป็น ขวัญใจคนเมือง

แฟรงคลิน โลบอส เริ่มอาชีพกิจการค้าลำแข้งกับ เรจินอล อตาคาม่า สมาคมประจำเมืองเมื่อปี 1980 รวมทั้งเริ่มสร้างชื่อเปลี่ยนเป็นหวานใจของแฟนบอลจากการยิงฟรีคิกอันทรงอำนาจ จนได้สมญานาม ‘El Mortero Mágico’ (The Magic Mortar) หรือ ‘ปืนใหญ่น่าพิศวง’ ก่อนชีพจรจะลงเท้า เปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลร่อนเร่ไปทั้งประเทศ

จุดสุดยอดสำหรับในการค้าลำแข้งของเขาเกิดขึ้นในปี 1983 เมื่อ โลบอส นำ วัวเบรซาล กลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีสมญานามว่า ‘Mineros’ (Miners) หรือ ‘ชาวเหมือง’ คว้าชัยชนะลีกรองของประเทศ กระทั่งถูกเรียกติดกลุ่มชาติประเทศชิลีชุดปรีโอลิมปิก 1984 แม้กระนั้นโชคร้ายที่ไม่อาจจะพาทีมผ่านเข้าไปเล่นรอบท้ายที่สุดที่นครลอสแอนเจลิส อเมริกาได้

หากแม้ชีวิตการเป็นนักเตะจะทำรายได้ไม่น้อย แม้กระนั้นการเวียนเวียนค้าลำแข้งในลีกรองของประเทศชิลีมาแทบจะตลอด ฐานะของเขาก็เลยไม่ถึงกับมั่งมีอะไรนัก ก่อนที่จะคิดที่จะตัดสินใจห้อยสตั๊ดเมื่อปี 1995 กับ เรจินอล อตาติดอยู่ม่า สมาคมแรกที่เคยลงเล่นให้ แล้วก็ด้วยวัย 38 ปี การเลิกเล่นก็เลยเป็นอะไรที่ไม่น่าสนเท่ห์ใจของคนที่อยู่รอบข้างนัก เนื่องจากว่าชีวิตนักเตะมีขณะของมัน

แม้กระนั้นเมื่อชีวิตยังจำเป็นต้องดำเนินต่อ โลบอส ก็เลยหยุดมิได้ เขาเลือกทางชีวิตแรกข้างหลังห้อยสตั๊ดด้วยการเป็นผู้ขับแท็กซี่ในเมืองโกเปียโป ถิ่นฐานบ้านช่อง จนถึงปี 2005 เจ้าตัวตกลงใจเปลี่ยนแปลงอาชีพ เมื่อเหตุการณ์ชีวิตบังคับ การคลังอัตคัด ส่วนบุตรสาว 2 คนก็โตถึงวัยเข้ามหาวิทยาลัย แน่ๆว่าจะต้องมีค่าครองชีพมากยิ่งกว่าเดิม เขาก็เลยตกลงใจลงไปดำเนินชีวิตใต้ดินด้วยการเป็นกรรมกรเหมืองแร่สุดท้าย

ชีวิตใหม่ในสิ่งแวดล้อมใหม่นั้นไม่ใช้ว่าจะง่าย เนื่องจากว่าถึงแม้เขาจะได้เงินเดือนที่ราว 700,000 เปโซประเทศชิลี หรือราว 40,000 บาท แม้กระนั้นรายได้ดังที่กล่าวถึงแล้วเป็นเพียงแต่ 1 ใน 4 ของเงินที่ได้รับยุคเป็นนักฟุตบอลในลีกสูงสุดเพียงแค่นั้น “ยุคเป็นนักเตะ คุณเกือบจะไม่ต้องเสียตังค์อะไร เพียงแค่ลงในสนามไปเล่นให้สุดกำลัง เป็นผู้แทนให้ชาวเหมืองได้พึงใจก็พอเพียง แม้กระนั้นพอเพียงจะต้องไปเป็นคนงานเหมืองแร่ ผมก็รู้เรื่องเลยว่า พวกเขาจำต้องทุกข์ยากลำบากแค่ไหนถึงจะหารายได้มาดูผมเล่นในสมัยก่อนได้” โลบอส กล่าวเปิดใจถึงชีวิตในขณะดังที่กล่าวถึงมาแล้วกับกรุ๊ปแฟนๆของ วัวเบรซาล

ชีวิตสำหรับในการเป็นคนงานเหมืองแร่ของ โลบอส เต็มไปด้วยเรื่องอันตราย แค่เพียงปีแรกสถานที่ทำงานนี้ เหมือง ลา ค้างโรล่า ที่เขาดำเนินการในขณะนั้น กำเนิดไฟไหม้ จนกระทั่งปากทางเข้า-ออกถูกปิด เขาติดอยู่ในนั้นพร้อมสหายๆอีกกรุ๊ปหนึ่ง 24 ชั่วโมงเต็ม

5 ส.ค. 2010 เป็นอีกวันที่เขาเข้ามาดำเนินงานตามธรรมดา แม้กระนั้นสิ่งเปลี่ยนไปจากปกติ เป็น เขาไม่สามารถที่จะกลับไปอยู่บ้านไปพบครอบครัวหวานใจได้ เมื่อพื้นที่บางส่วนของเหมืองกำเนิดกระหน่ำลงมา…

คนงานนับร้อยต่างหนีกันจ้าละหวั่น เล็กน้อยหนีออกมาจากเหมืองได้ แต่ว่าอีกส่วนหนีออกมาไม่ทัน จำต้องติดอยู่ในเหมือง และก็โลบอส เป็นหนึ่งในนั้น เหตุการณ์ในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นเรื่องเศร้าด้วย

“กลุ่มช่วยเหลือเจอรถยนต์คันที่บิดาใช้งานอยู่ในภาวะพังพินาศ เลือดเปรอะรถยนต์อีกทั้งคัน พวกเขาพูดว่าบิดาของฉันไปไม่ถึงจุดศูนย์รวมตัวเมื่อได้รับภัย” แคโรลิน่า นึกถึงวันนั้น “วันนั้นตลอดทั้งวันฉันราวกับใจแตกสลาย ทำเป็นเพียงแต่กรีดอย่างบ้า เพราะเหตุว่าสิ่งที่พวกเขาบอกราวกับเป็นการกล่าวแบบเปลี่ยนๆว่า บิดาของฉันได้จากไปชั่วนิจนิรันดร์แล้ว”

แม้กระนั้นในขณะที่คนสนิทอยู่ในภาวการณ์ห่อเหี่ยว กลับมีอีกคนหนึ่งที่ไม่คิดแบบนั้น...อีวาน ซาโมราโน่ ตำนานดาวยิงกลุ่มชาติประเทศชิลี แล้วก็อินเตอร์ มิลาน ซึ่งเคยเล่นข้างเคียง โลบอส ยุคที่เริ่มอาชีพกิจการค้าหน้าแข้งกับ วัวเบรซาล กลับแน่ใจว่าซี้เก่าของเขาจำเป็นต้องไม่เป็นอะไร…

“ตั้งแต่วันแรกที่ลงฝึกซ้อมร่วมกัน ผมก็รู้สึกได้แล้วว่าเขามีความเป็นหัวหน้าสูงมากมาย แล้วก็มั่นใจว่าในเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ เขาจะเอาชีวิตรอดได้ แล้วก็จะช่วยทำให้ทุกคน ที่ติดร่วมกันรอดชีวิตเพื่อรอคอยความช่วยเหลือเกื้อกูลด้วย”

13 เดือนตุลาคม 2010 ภายหลังที่คนงานติดอยู่ในเหมืองถึง 69 วัน สุดท้ายก็สามารถนำผู้เผชิญภัยออกมาได้เสร็จ โดยทัพเรือของประเทศชิลีได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่นาซ่าของประเทศสหรัฐอเมริกา สร้างแคปซูลขนาดพอดิบพอดีตัวคน ซึ่งมีออกสิเจนแล้วก็ระบบการสื่อสาร เพื่อนำพวกเขาออกมาครั้งละคน โดยกรรมกรเหมืองแร่อีกทั้ง 33 คนได้แบ่งพวกเขาเองออกเป็น 3 ส่วน เป็นกรุ๊ปที่มีความชำนาญ กรุ๊ปที่อ่อนเพลีย และก็กรุ๊ปที่แข็งแรง

ข้างหลังออกมาจากซากเหมืองได้เสร็จ คนงานทั้งยัง 33 ผู้ที่มีชีวิตรอดก็แปลงเป็นคนที่ใครๆก็รู้จักในชั่วช้าข้ามคืน พร้อมทั้งจังหวะคราวหนึ่งในชีวิตที่ถั่งโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง ผู้นำปิเนร่า เปิดทำเนียบให้พวกเขาไปพบเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ส่งเปรียบเทียบเชื้อเชิญคนงานกลุ่มนี้มาที่อังกฤษเพื่อเข้าชมเกมของกลุ่ม โดย เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานนักฟุตบอลของปีศาจร้ายแดงเป็นผู้ส่งเปรียบเทียบเชิญชวนด้วยตัวเอง เนื่องจากว่าบิดาของเซอร์ บ็อบบี้ เคยดำเนินการเป็นคนงานในเหมืองเช่นเดียวกัน