นี่เป็นเรื่องราวตำนานศิลป์บังคับม้าสู่ยอดเยี่ยมม้าราคา 15 ล้านยูโร โททิลาส (Totilas) บนโลกนี้มีม้าแข่งมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายสายพันธุ์ที่ใช้ความเร็วสู้กันในสนาม แต่ว่าสำหรับศิลป์ที่ยากมากกว่าเป็น "เดรซาจ" หรือศิลป์การบังคับม้า ที่คนกับม้าควรจะเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่ม้าแค่นั้นที่จะจะต้องมีเซนส์เพื่อรับการฝึกหัด แม้กระนั้นคนสอนก็จำต้องเก่งมากมายซึ่งสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในจิตใจของม้าทำในสิ่งที่กันและกันปรารถนา โน่นทำให้ม้า เดรสซาจ สายพันธุ์ดีก็เลยเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมี่ยม ที่มีเพียงแต่ไม่กี่ตัวบนโลกนี้
ตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษย์มิได้ใช้ม้าเพื่อมาฝึกฝนให้มีท่าทีที่งามสง่าแบบตอนนี้ สัตว์ที่มีขาอันทรงอำนาจถูกใช้สำหรับการทำศึก เอาพลังของมันมาเป็นสิ่งที่ใช้ในการชี้วัดชัยในการศึก
จนถึงมาถึงตอน 430 ปีกลายคริสตกาล ความใหญ่โตของกองกองทัพภาษากรีกนั้นปรารถนาแสนยานุภาพมากยิ่งกว่าเพียงแค่กำลังรบ พวกเขาอยากได้ให้ม้าที่ธรรมดาใช้ให้วิ่งและก็สู้ กลายเป็นม้าที่พร้อมรับคำสั่งจากคนขี่ได้
เริ่มต้นนั้น การตั้งมั่นแปลงม้าศึกให้เป็น "ม้าเดรสซาจ" เป็นการยกฐานะม้าไปอีกขั้น เนื่องจากว่าม้าที่ถูกฝึกฝนมาเพื่อมาเป็นม้าเดรสซาจ จะได้เคล็ดลับที่ลึกซึ้งไปอีก 1 ขั้น โน่นเป็นการต่อสู้ในระยะใกล้ชิด หักหลบซ้ายขวาได้ราวกับจิตใจไม่ใช่แค่วิ่งใส่ใช้แรงสิ่งเดียว โดยหลักฐานดังกล่าวข้างต้นถูกบันทึกไว้โดยนายพลของกองกองทัพภาษากรีกที่ชื่อ ซีโนโฟน
ซีโนโฟนบันทึกไว้ว่าการฝึกหัดม้าเดรสซาจนั้นต่างจากม้าศึกทั่วๆไป ตรงที่จะเน้นย้ำการฝึกฝนด้วยแนวทางอันเมตตาแล้วก็นุ่มนวล รวมทั้งควรจะมีรางวัลให้ม้าเสมอเมื่อทำแต่ละสิ่งที่สั่งได้ และก็ศิลป์การฝึกฝนม้าก็ถูกส่งต่อมาเรื่อยจนกว่าถึงสมัยวิคตอเรีย หรือสมัยที่ศิลป์วิทยาการรุ่งเรืองสุดๆทุกสิ่งทุกอย่างถูกมองดูไปในทางของความสวยหรูสง่างาม เพราะฉะนั้นม้าเดรสซาจก็เลยแปลงเป็นที่นิยมสุดๆในช่วงเวลานั้น
เมื่อรุ่งโรจน์ ทุกสิ่งก็คืบหน้าไปอย่างเร็ว ในสมัยวิคตอเรียนั้น ศิลป์การบังคับม้าถูกปรับปรุงให้สลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่แค่ม้าเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังรวมทั้งผู้ที่บังคับมันด้วย
เมื่อม้าที่เป็นเครื่องหมายของความแข็งแกร่งกระฉับกระเฉงถูกฝึกฝนให้มาทำสิ่งที่งามสง่า แปลงเป็นว่ามันได้เพิ่มราคาให้กับม้าเดรสซาจอีกมากมายโขในยุคกลาง ผู้ขี่นอกเหนือจากที่จะมีความรู้และความเข้าใจสำหรับการฝึกฝนรวมทั้งบังคับม้าแล้ว พวกเขายังจำต้องแต่งตัวเต็มยศด้วยเครื่องแต่งกายที่สุภาพตามจารีตของสังเวียนโชว์
เหล่าเจ้าขุนมูลนายชั้นสูงในยุโรปส่งเสริมให้ ม้าเดรสซาจ แปลงเป็นกีฬา จนถึงในปี 1572 ก็ได้มีการสร้างสถานศึกษาปรับปรุงแล้วก็ฝึกหัดม้าโดยยิ่งไปกว่านั้นในกรุงเวียนที่นา และก็ต่อจากนั้นกีฬา ม้าเดรสซาจ ก็ถูกส่งเสริมไปสู่โอลิมปิกในปี 1912 ที่กรุงสตอคโฮล์ม โดยผู้เข้าร่วมชิงโดยมากเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรเพียงแค่นั้น จวบจนกระทั่งเริ่มมีการเปลี่ยนกฎให้ทั้งยังประชากรชายและก็หญิงสามารถลงแข่งขันได้ในตอนปี 1952
เมื่อกีฬาขี่ม้าเดรสซาจแปลงเป็นกีฬาของทุกคน อังกฤษ ก็เข้ามาเป็นชาติที่ให้ความเอาใจใส่กับสิ่งนี้แบบสุดกำลังพวกเขาจัดตั้งขึ้นชมรมขี่ม้าเดรสซาจในปี 1961 รวมทั้งจัดแข่งขันตลอดตลอดทั้งปี และก็มีสมาชิกในกรุ๊ปถึง 13,000 คนรวมทั้งมีม้าสมัครสมาชิกกับสัมพันธ์กว่า 10,000 ตัวในตอนนี้
กล่าวได้ว่าเมื่ออังกฤษได้รันวงการแบบสุดกำลัง ทุกๆวันนี้ เดรสซาจก็เลยเปลี่ยนเป็นกีฬาขี่ม้ายอดนิยมในหลายประเทศ และก็ได้ปรับปรุงเป็นกีฬาขี่ม้าโอลิมปิกที่เติบโตเร็วที่สุดอีกด้วย
แน่ๆว่าเมื่อมันเป็นกระแสหลักแล้วย่อมจะต้องมีคนที่เป็นเลิศในพื้นดิน และก็ในแวดวงม้าเดรสซาจ มียอดม้าที่ได้รับการยินยอมรับไปทั้งโลกรวมทั้งม้าตัวนั้นมีชื่่อว่า "โททิลาส"
ถ้าหากเทียบกับแวดวงบอล โททิลาสเปรียบได้ดั่ง ลิโอเนล เมสซี่ ดีๆนั่นเอง พูดอีกนัยหนึ่งมันเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นม้าบังคับโดยแท้ มีพรสวรรค์สำหรับเพื่อการรับการฝึกฝน ทั้งยังมีร่างกายที่สง่างาม
โททิลาส ม้าที่แพงกว่าโอเว่น
เดิม โททิลาส เป็นม้าจากฮอลล์แลนด์ โดยมีสมญานามว่า "พ่อพันธุ์น่าพิศวง" ตัวของ โททิลาสถูกฝึกฝนโดย แยน ยกอิล แล้วก็ แอนทุ่งนา ยกอิล-วิสเซอร์ ในตอนที่ โททิลาสอายุได้ 5 ปี มันถูกพาไปชิงชัยในงาน World Championships for Young Horses (ชิงชนะเลิศโลกม้าวัยรุ่น) ที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี รวมทั้งสำหรับในการแข่งม้าเดรสซาจตอนนั้น โททิลาสแสดงออกถึงความสง่าผ่าเผยตั้งแต่ท่าเดิน มันเป็นม้าที่ไม่เคยรู้แรงกดดัน และก็แสดงสิ่งที่ฝึกหัดออกมาในสนามแข่งขันได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
ภายหลังการแข่งขันชิงชัยระดับม้าวัยรุ่นในปี 2005 นั้น โททิลาสก็เปลี่ยนเป็นม้าที่ทุกสายตาสัมผัสว่าจะแปลงเป็นยอดม้าของโลก ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริงๆในปี 2008 มันถูกส่งไปแข่งขันรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ แล้วก็สามารถเก็บแต้มทำลายสถิติโลกได้ในทันทีทันใด รวมทั้งยังรักษาผลงานสะดุดตาทุกคนตลอดจนกระทั่งปี 2010 และก็เมื่อนั้นกรุ๊ปคนรวยนักเลี้ยงม้าก็อดรนทนไม่ได้ที่จะทาบทาม
ในต.ค.ปี 2010 มีการประกาศว่าคนมั่งคั่งผู้เพาะพันธุ์ม้าชาวเยอรมันชื่อ พอล โชเกอโมล ได้ทุ่มทุนก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ม้าเดรสซาจเป็นปริมาณ 9.5 ล้านยูโร รวมทั้งค่าโดยรวมทุกออปชั่นอยู่ที่ 15 ล้านยูโร พูดได้ว่าเป็นราคาเดียวกับนักฟุตบอลสุดยอดอย่าง ไมเคิล โอเว่น ที่ย้ายจาก หงส์แดง ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2005 อย่างยิ่งจริงๆ
ถึงแม้สโมสรม้าเดรสซาจของเนเธอร์แลนด์นำโดย เอ็ดเวิร์ด กัล จะปฎิเสธกระแสข่าวลือแนวทางการขายม้าที่เยี่ยมที่สุดในประเทศตัวนี้ แต่ว่าเรื่องจริงเป็น ผู้ครอบครองม้าตัวจริงไม่อาจจะปฎิเสธข้อแนะนำนี้ได้จริงๆ
"พวกเราไม่สามารถที่จะละเลยต่อความพอใจในตัว โททิลาสได้ มันเป็นการตกลงใจของ วิสเซอร์ แม้กระนั้นผมเศร้าใจมากมายที่พวกเราจำเป็นต้องเสียม้าที่เหมาะสมที่สุดไป มันอย่างกับฟ้าผ่าอย่างยิ่งจริงๆ" เอ็ดเวิร์ด กัล เห็นด้วยด้วยความเสียดาย ที่ม้าระดับความมุ่งหวังโอลิมปิกของประเทศจำต้องแปลงเป็นของเยอรมันคู่ต่อสู้โดยตรงของพวกเขา วิธีขาย โททิลาสเปรียบได้กับการปลดปล่อย "สายโลหิตที่แกร่งที่สุด" ให้กับคู่ต่อสู้ไม่มีผิดเพี้ยน
เมื่อได้เป็นเจ้าของ โททิลาสเป็นระเบียบ โชเกอโมล ก็จัดแจงปรับปรุงทั้งยังสายพันธุ์แล้วก็สมรรถนะของมันมากขึ้นไปอีกอย่างกับเตรียมความพร้อมมานานเล้ว พวกเขาเริ่มให้ มาธิอัส อเล็กซานเดอร์ รัธ นักขี่ม้าวัย 26 ปี เปลี่ยนเป็นจ็อคกี้คู่ใจของ โททิลาสแล้วก็ดังการเกาะติดคู่ที่พอดี เพราะว่า โททิลาสก็แสดงความไม่เหมือนอีกทั้งสวยและก็สง่ามากกว่าเดิมเมื่อครั้งที่มันออกโชว์ซึ่งๆหน้าสื่อในเยอรมันเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2010
สื่อเยอรมันตั้งนามแฝงให้กับ โททิลาสเยอะแยะทั้งยัง ไอดอล, วีรบุรุษ, บิ๊กบอสที่การเคลื่อนไหว, นักเล่นกลดำกับรองเท้าบัลเล่ต์สีขาว ฯลฯ
อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อโอลิมปิกปี 2012 มาถึง กลายเป็นว่า โททิลาสมีลักษณะเจ็บ ไม่สามารถที่จะเดินทางไปแข่งในกรุงลอนดอนได้ กระทั่งเยอรมันจำเป็นต้องพลาดเหรียญทอง รวมทั้งมีลักษณะอาการเจ็บหนักอีกทีในตอนปี 2014 ที่มันถูกพบว่ากระดูกกีบขาข้างหลังอักเสบ ซึ่งทำให้ไม่สามารถที่จะฝึกฝนหนักดังเดิมได้ กระทั่งท้ายที่สุด โททิลาส จะต้องรีไทร์จากแวดวงม้าเดรสซาจในปี 2015 อย่างโชคร้าย
แม้กระนั้นถึงแบบนั้น ก็ยังมีเรื่องมีราวปลอบประโลมใจโชเกอโมลได้บ้างเมื่อในฐานะพ่อพันธุ์ โททิลาสสามารถทดแทนพวกเขาได้อย่างคุ้ม น้ำกามของ โททิลาสราคาแพงสูงสูงถึง 32,000 ยูโร ต่อการผสมพันธุ์ 1 ครั้ง
บางเวลาอนาคตเป็นสิ่งที่เดามิได้เลย เราะอาจจะกล่าวว่าโชเกอโมลไม่สามารถที่จะต่อยอดให้ โททิลาสเปลี่ยนเป็นม้าระดับเหรียญทองโอลิมปิกได้ แต่ว่าในที่สุดอย่างต่ำค่าตอบแทน 15 ล้านยูโรของ โททิลาสจะถูกเสี่ยงทายในอนาคตอีกรอบ เมื่อน้ำกามของมันถือกำเนิดจนได้ลูกประเภทที่สง่างามและก็กล้าแกร่งราวมัน
และก็ถ้าเกิดโชเกอโมลโชคดี เชื้อสายของ โททิลาสบางครั้งอาจจะเข้มแข็งกว่ามันก็เป็นไปได้ และก็เมื่อนั้นราคาของม้าจำเป็นจะต้องสูงมากขึ้นในอนาคต นั่นถือได้ว่า 15 ล้านยูโรที่เสียไปให้โททิลาสบางครั้งอาจจะเปลี่ยนแปลง 30, 45 หรือ 60 ล้านยูโร สำหรับโททิลาสหรือแม้กระทั้งบุตรหลานในอนาคตก็เป็นไปได้
ถ้าคุณพึงพอใจเรื่องเกี่ยวกับม้า ที่ใช้ชิงชัยในศิลป์บังคับม้ามากขึ้นแล้ว ลองดูที่หน้าที่แข่งกีฬาขี่ม้ารายการ Princess’ s Cup Thailand 2019 ภายใต้คำขวัญ “Keep Working, Riding Happy with 2 Hearts, Feeling for Feeling” ณ สนามกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาท่าน สนามเป้า กรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 19 - 24 พ.ย.นี้ รวมทั้งการประลองขี่ม้าชิงชนะเลิศทวีปเอเชีย หรือ FEI Asian Championship 2019 ที่พัทยา, จังหวัดชลบุรี วันที่ 1 - 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดแจงชิงชัยระดับทวีปเอเชีย ที่ได้รับการยืนยันจากสมาพันธ์ขี่ม้านานาประเทศ หรือ FEI ด้วย บางครั้งคุณอาจได้มองเห็นลีลาท่าทางความสง่า ของพวกเขา กระทั่งแปลงเป็นแฟนพันธุ์แท้ของกีฬาขี่ม้าไปเลยก็ได้
TS911 สมัครวันนี้ รับฟรี!!! ทันที 15% สูงสุดที่ 1,500 บาท บาคาร่า สล็อต รูเล็ต ไพ่เสือ-มังกร แทงขั้นต่ำเพียง 10 บาท เท่านั้น!!!