คนไม่ใช่น้อยบางทีอาจคิดไม่ถึงว่า ก่อนที่จะพวกเขาจะสร้างชื่อ จนถึงเป็นตำนานของ WWE นักมวยปลุกปล้ำพวกนี้เคยเป็นเพียงแค่คนไม่มีคุณค่าของค่ายฝึกซ้อมมวยปลุกปล้ำที่ชื่อว่า WCW อดีตกาลสัมพันธ์เลขลำดับหนึ่งของโลก ที่มีมหาเศรษฐีพันล้านเป็นเจ้าของ
จากวันที่อยู่บนจุดสุดยอดของแวดวงมวยปล้ำ ภายในเวลาไม่นาน WCW จำต้องประสบเจอกับปัญหาเยอะแยะมากมาย ที่พวกเขาก่อขึ้นด้วยมือของตนเอง กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้ง ค่ายฝึกซ้อมมวยปลุกปล้ำที่เคยเป็นเบอร์หนึ่งของโลกที่นี้ ก็เลยถึงวันที่จะต้องปิดตัวลงไปชั่วกัลปวสาน
สโมสร WCW หรือ World Championship Wrestling (เวิลด์ แชมเปียนชิพ เรสต์ลิง) จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1988 ข้างหลัง เท็ด เทอเนอร์ มหาเศรษฐีจากธุรกิจสื่อสารมวลชน ผู้จัดตั้งช่องทีวี CNN ทุ่มเงิน 9ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพื่อซื้อส่วนหนึ่งส่วนใดของสัมพันธ์ NWA ค่ายซ้อม ทางเข้า ts911 ชั้นสองของโลก มาเอาไว้ในการดูแลของตนเอง
ในช่วงดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว ค่ายฝึกมวยปลุกปล้ำลำดับที่หนึ่งของโลกเป็นค่าย WWF (หรือ WWE) ที่ถูกบริหารโดย วินซ์ แม็คแมน (Vince McMahon) โปรโมเตอร์ที่มาแรงที่สุดเวลานี้ เขาปลุกกระแสมวยปล้ำจนกระทั่งทำยอดจำหน่ายศึก Wrestlemania 4 ให้มียอด เพย์เพอร์ทิวทัศน์ หรือผู้สั่งซื้อเพื่อเข้าถึงการรับดูถึง 585,000 ราย สูงที่สุดในประวัติศาสตร์มวยปล้ำจนถึงทุกวันนี้
เทอเนอร์เป็นนักธุรกิจมือแม่น เขาแลเห็นช่องทางในยอดจำหน่ายค่ายคู่แข่งขัน หากแม้มิได้เติบโตมาในครอบครัวธุรกิจมวยปล้ำแบบ วินซ์ แม็คแมน แม้กระนั้นเทอเนอร์แน่ใจว่าประสบการณ์ในธุรกิจของเขา รวมทั้งจำนวนเงินที่พรั่งพร้อมที่พร้อมสนับสนุน จะช่วยสนับสนุนให้ WCW เท่ากัน และก็แซงหน้า WWF ในเวลาอันสั้น
โชคร้ายที่ธุรกิจมวยปล้ำไม่ใช่ง่ายแบบที่เทอเนอร์คิด จากที่ควรฟาดกำไรเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุน WCW จำต้องขาดทุนปีละ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในตอนห้าปีแรกของสัมพันธ์ โดยส่วนมากมีเหตุมีผลจากข้อผิดพลาดสำหรับเพื่อการเขียนบท แล้วก็ปั้นนักมวยปลุกปล้ำที่ไม่รองรับความต้องการของผู้ชม
ปี 1991 ตำนานแชมป์โลก 16 ยุค ริค แฟลร์ (Ric Flair) คนรับหน้าที่เป็นนักมวยปลุกปล้ำลำดับที่หนึ่งของ NWA/WCW มานานแทบ 20 ปี ตกลงใจเดินออกมาจากชมรม เหตุเพราะการขัดกันกับผู้บริหาร เรื่องราวนี้ทำให้สโมสรพบภาวการณ์สุญญากาศ รวมทั้งต้องหาใครบางคนแทนที่
ในที่สุด WCW เลือกสนับสนุนนักมวยปลุกปล้ำคนใหม่มาแรงนามว่า เล็กซ์ ลูเกอร์ (Lex Luger) ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าพวกเขาไม่กลับลูเกอร์ที่ตอนแรกเป็นนักมวยปลุกปล้ำข้างธรรมะ แล้วก็ต่อสู้กับ ริค แฟลร์ มาในช่วงที่ผ่านมา ให้แปลงเป็นนักมวยปลุกปล้ำข้างอธรรม แทน ริค แฟลร์ เสียเอง
การบรรลุผลสำหรับในการล่าตัว ริค แฟลร์ กลับไปอยู่บ้าน ทำให้เรตติ้งของWCWพุ่งสูงมากขึ้นแบบทันตา เท็ด เทอเนอร์ ก็เลยเปลี่ยนแปลงแนวทางจากการปั้นนักมวยปลุกปล้ำในค่ายให้ดัง เป็นการควักกระเป๋าเพื่อทุ่มซื้อซูเปอร์สตาร์แทน เขาเสียตังค์เกือบจะ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพื่อเซ็นสัญญา สิด วิเชียส (Sid Vicious) และก็ ดาวี่ย์ บอย สมิท (Davey Boy Smith) มาจาก WWF
มีเหตุหลายประเภทที่ เท็ด เทอเนอร์ มองเห็นในตัวของ เอริค บิสชอฟ เขาอายุน้อย, นิสัยไม่ดี, มีความคิดใหม่ แล้วก็กล้าจะทำในสิ่งที่คนอื่นๆไม่กล้า เขาต่างจากนักมวยปลุกปล้ำที่ผันตัวเป็นโปรดิวเซอร์ พวกเขาเหล่านั้นมีความรู้ความเข้าใจสำหรับ SA gaming เพื่อการบริหารค่ายฝึกซ้อมมวยปลุกปล้ำ แต่ว่าไม่มีความสามารถรวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับการบริหารธุรกิจแบบบิสชอฟ
บิสชอฟยกฐานะการคว้านักมวยปล้ำจาก WWF ขึ้นไปอีกขั้น เขาเปิดตัวนักมวยปลุกปล้ำพวกนั้นด้วยความโจษจัน เริ่มด้วย เมดูซ่า (Madusa) แชมป์โลกหญิงของ WWF มาเผยตัวที่รายการ Monday Nitro แล้วทิ้งสายรัดเอวแชมป์โลกหญิงของ WWF ลงถังใส่ขยะออกทีวี เรื่องนี้สร้างความขายหน้าแก่ วินซ์ แม็คแมน อย่างมากมาย จนกระทั่ง WWF จบหน้าที่ของแชมป์โลกหญิงไปช้านานถึง 3 ปี
ท่ามกลางการบรรลุเป้าหมายข้างหน้า ข้างหลังบิสชอฟจะต้องพบกับตอนที่ยากลำเค็ญ ก.พ. ปี 1997 สก็อตต์ ฮอลล์ และก็ เควิน แนช ไม่ชอบใจที่เสียแชมป์แท็กทีมให้แก่ เล็กซ์ ลูเกอร์ รวมทั้ง เดอะ ไจแอนท์ พวกเขาเข้าไปว่ากล่าวบิสชอฟเบื้องหลัง ในที่สุดบิสชอฟจะต้องยึดแชมป์แท็กทีม คืนให้แก่ฮอลล์รวมทั้งแนช ข้างหลังเสียแชมป์เพียงแค่หนึ่งวัน
บทเรียนที่ WWF ทำความเข้าใจข้างหลังกลายเป็นเบอร์สองของแวดวง เป็นอย่าละเลยปัญหาที่เกิดขึ้น ค่ายของคุณอาจเขียนบทในแนวทางที่บกพร่อง, ประสิทธิภาพแมตช์การปลุกปล้ำต่ำ, นักมวยปลุกปล้ำไม่ได้รับความนิยม หรือยอดซื้อศึกใหญ่ไม่ดีขึ้น ทุกสิ่งล้วนคือปัญหาที่ทำให้ผู้ชมระอาอย่างเร็ว และก็หันหลังให้กับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาไม่ชอบใจ แบบที่ค่ายฝึกซ้อมมวยปลุกปล้ำไม่ทันตั้งตัว
การกระทำแบบสองมาตรฐานทำให้ความรู้สึกไม่ถูกใจขยายเป็นวงกว้าง ปัญหาจากเดิมที่จำกัดในนักมวยปลุกปล้ำระดับค่อนข้างสูง กระจายตัวสู่นักมวยปลุกปล้ำระดับกึ่งกลางรวมทั้งครุยเซอร์เวต พวกเขาไม่ชอบใจที่มิได้รับการช่วยส่งเสริม แล้วก็ถูกปฏิบัติเป็นราวกับตัวตลกให้นักมวยปลุกปล้ำระดับที่ค่อนข้างสูงกระทืบเล่น ทั้งๆที่ปลุกปล้ำอย่างดุเด็ดเผ็ดมันเสี่ยงตาย แล้วก็สร้างเสียงฮือฮาแก่ผู้ชมได้เสมอ
เมื่ออิทธิพลของ nWo มากจนเกินไป ผู้ที่รู้สึกถึงอันตรายอย่างยิ่งที่สุด กลายเป็น เอริค บิสชอฟ เขากลัวจะสูญเสียอำนาจของตนเองไป บิสชอฟเริ่มแสดงไม้แข็ง เพื่อหมายความว่าคนไหนกันแน่เป็นนายจ้างที่จริงจริง ด้วยการไล่ ฌอน วอลต์แมน (Sean Waltman) เพื่อนสนิทของแนชแล้วก็ฮอลล์ออก ท้ายที่สุดสองคนนี้ไม่ชอบใจมากมาย และก็หายจากจอทีวีแบบดื้อรั้นๆที่ห่วยแตกไปกว่านั้นเป็น วอลต์แมนย้ายซบ WWF แล้วก็สร้างชื่อดังในชื่อ เอ็กซ์ แพค (X-Pac)
แทนที่พวกเขาจะนำแมตช์ในฝันของผู้ชม โฮแกน-โกลด์เบิร์ก ไปใส่เอาไว้ภายในโชว์จำเป็นต้องชำระเงินเพื่อรับดู รวมทั้งสร้างรายได้แก่ชมรมหลายล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา บิสชอฟกลับปลดปล่อยให้มองฟรีทางรายการ Monday Nitro เนื่องจากว่าเขาพึงพอใจเพียงแค่เรื่องเรตติ้งทางโทรทัศน์แค่นั้น
ไม่น่าสนเท่ห์ใจที่ผลตอบรับทุกสิ่งบานปลายปี2000 เรตติ้ง Monday Nitro ตกลงสู่ 1.8 ในขณะที่ RAW อยู่ที่ 6.4 ในเวลาที่ผู้ชมเฉลี่ยต่อโชว์ของพวกเขาลดน้อยลงเหลือแค่ 3,593ราย เนื่องด้วยพวกเขาไม่อาจจะสร้างดาวดังแบบใหม่ได้ ในช่วงเวลาที่ตัวเก่าที่เคยเป็นที่นิยมอย่าง ริค แฟลร์ รวมทั้ง โกลด์เบิร์ก ถูกเขียนบทสกปรก กระทั่งแปลงเป็นคนโง่เขลาในสายตาแฟนมวยปล้ำทั้งโลก